EN / TH

งูเล็กพ่นพิษตลาดรถไทย ม.ค.68 ชะลอตัว 12.3%

28 กุมภาพันธ์ 2568

ISUZU ขายดีเบอร์ 2 ของไทย ตรีเพชรฯและอีซูซุมอเตอร์กำไรรวมเกือบ 4 หมื่นล้านในงบประมาณปี 67

28 กุมภาพันธ์ 2568

ไขหลักการทำงาน "หัวฉีด i-ART" กุญแจความประหยัด TOYOTA HILUX REVO

28 กุมภาพันธ์ 2568

เผยโฉมในจีน! Honda Accord ไมเนอร์เชนจ์ปี 2026

28 กุมภาพันธ์ 2568

โตโยต้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่11 มีนาคม

27 กุมภาพันธ์ 2568

KIA เปิดตัวรถคอนเซ็ปต์ EV 2 วางตำแหน่งทางการตลาดเป็น B-SUV ราคาจับต้องได้

27 กุมภาพันธ์ 2568

ทรัมป์วางแผนเพิ่มภาษีนำเข้าและส่งออกสินค้าเป็น 25% ทั่วยุโรป รวมถึงรถยนต์

27 กุมภาพันธ์ 2568

ริดดาราเร่งอุดช่องว่างงานบริการวางเป้าผุด 50 โชว์รูมทั่วไทยสิ้นปี 68

26 กุมภาพันธ์ 2568

ZEEKR ควบรวมกิจการกับ Lynk & Co ก่อตั้ง 'ZEEKR Group'

24 กุมภาพันธ์ 2568

Rolls-Royce เปิดตัว Black Badge SPECTRE ตัวแรงที่สุดของแบรนด์

20 กุมภาพันธ์ 2568

Tesla Cybertruck ได้คะแนน 5 ดาวในการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย NHTSA

20 กุมภาพันธ์ 2568

เปิดสเปคออสเตรเลีย Jaecoo J7 SUV ขนาดกลางที่จะมาลุยตลาดเมืองไทย!

20 กุมภาพันธ์ 2568

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า บทความ

ไขหลักการทำงาน "หัวฉีด i-ART" กุญแจความประหยัด TOYOTA HILUX REVO

28 กุมภาพันธ์ 2568| จำนวนผู้เข้าชม 103

 

เวลารีวิว TOYOTA HILUX REVO พอพูดถึงเครื่องยนต์ปัจจุบัน ก็จะพูดถึงการจ่ายน้ำมันจากหัวฉีด i-ART เทคโนโลยีหัวฉีดอัฉริยะ บลาๆๆ แต่ผมเชื่อว่า บางท่านก็คงยังสงสัย ว่ามันทำงานยังไง อัฉริยะตรงไหน..?

 

เอาแบบสรุป มันเป็นหัวฉีดที่ควบคุมด้วยระบบกล่องควบคุม ECU ก็คือเอาระบบคอมพิวเตอร์ หรือสมองอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปคุมการจ่ายน้ำมันสัมพันธ์กับการเหยียบคันเร่ง จริงอยู่ว่า..เครื่องยนต์หลายค่ายก็คุมด้วยกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์กันมานานแล้ว แต่วันนี้เรามาพูดถึง i-ART ของ TOYOTA ที่พัฒนาโดย DENSO ว่ามันทำงานอย่างไร..? ทำไมมันถึงตอบสนองต่อการใช้งานรถตั้งแต่การบรรทุกหนัก ไปจนถึงการใช้งานโดยสาร


 

i-ART ย่อมาจาก intelligent - Accuracy Refinement Technology โดยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลของ HILUX REVO กับ FORTUNER ในปัจจุบัน ที่หัวฉีดแรงดันสูงจะมีเซ็นเซอร์ขนาดเล็กติดตั้งเอาไว้ด้วย เพื่อวัดแรงดันน้ำมันบนหัวฉีดน้ำมันแต่ละตัว ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของหัวฉีดได้อย่างละเอียดและต่อเนื่อง รวมทั้งปรับการทำงานของหัวฉีดในแต่ละลูกสูบได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีการฉีดน้ำมันเข้าสู่การเผาไหม้ได้อย่างอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหลักการทำงาน คือ เมื่อเหยียบคันเร่ง สัญญาณจะถูกส่งไปที่กล่องควบคุมและประมวลผลอิเล็กทรอนิกส์ ECU เพื่อคำนวณการสั่งจ่ายน้ำมันตามองศาของการเหยียบแป้นคันเร่งไฟฟ้า เมื่อถอนคันเร่งจะหยุดการฉีดน้ำมันและเปลี่ยนมาสั่งฉีดจ่ายปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงเท่ากับรอบเดินเบาทันที หัวฉีดน้ำมันทั่วไป จะจ่ายน้ำมันตอนที่ถอนเท้าออกจากคันเร่งสูงกว่ารอบเดินเบาเพื่อป้องกันเครื่องดับฉับพลัน แต่หัวฉีด i-Art จะจ่ายน้ำมันเท่ากับรอบเดินเบา ส่วนต่างตรงนี้คือการช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และใช้น้ำมันเท่าที่จำเป็นเหมาะสมต่อกำลัง โดยมีหลักการทำงานดังนี้

 

ทุกการจุดระเบิด จะมีการฉีดน้ำมัน 2 ครั้งต่อการเผาไหม้
- ครั้งที่ 1: ฉีดน้อย เพื่อปรับความร้อน และแรงดัน

- ครั้งที่ 2: ฉีดเพื่อจุดระเบิดเอากำลัง ทำให้เครื่องเดินเรียบ ลดเสียงเครื่องยนต์ดัง

โดยการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง 2 ครั้งในทุกการจุดระเบิดนี้ ระบบจะคำนวณความเหมาะสมของการฉีด และจะแบ่งการฉีดให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมต่อกำลังในการจุดระเบิดเสมอ

 

ปัจจุบัน หัวฉีด i-ART ที่ใช้ในปัจจุบัน (ใน Hilux Revo 2020) ใช้รหัส G4.5S-i ใช้ปลั๊กแบบ 6 ขั่ว หัวฉีดเดิมก่อนหน้าเป็นแบบ 2 ขั่ว รหัส G4S



 

ถ้าจะอธิบายลงไปอีก หัวฉีด i-ART เป็นหัวฉีดที่มีเซ็นเซอร์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละหัวฉีด และสามารถรองรับแรงดันการฉีดน้ำมันได้สูง เมื่อมีเซ็นเซอร์ 1เซ็นเซอร์ต่อ 1 หัวฉีด กล่อง ECU ก็สามารถควบคุมการจ่ายน้ำมันได้มีประสิทธิภาพขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อหยียบคันเร่งแล้ว สัญญาณถูกส่งไปที่กล่อง ECU เพื่อคำนวณการสั่งการระบบต่างที่เกี่ยวข้องการการสันดาป แบ่งเป็นการควบคุม 2 ด้าน คือ 1 ด้านการจุดระเบิด และ 2 ด้านการไหลเวียนอัดอากาศและควบคุมไอเสียให้เหมาะสม

  • หัวฉีดแรงดันสูงส่งผลให้ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ละเอียดมากแบบฝอยละออง

 

ด้านการจุดระเบิด ระบบจะส่งสัญญาณไปวาล์วควบคุมจังหวะของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ควบคุมวาล์วระบายแรงดันที่รางคอมมอลเรล ควบคุมเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันที่รางคอมมอลเรล และควบคุมเซ็นเซอร์ที่หัวฉีดจ่ายน้ำมัน

 

ด้านการไหลเวียนอัดอากาศและคุมไอเสีย ระบบจะควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อบริเวณท่อไอดี และควบคุมเทอร์โบไฟฟ้าเพื่อแปรผันอากาศให้เหมาะสมทั้งฝั่งอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้และฝั่งคายไอเสีย

 

เมื่อกล่อง ECU ควบคุมการทำงานทั้งสองด้าน จึงส่งผลให้การทำงานของส่วนต่างๆสัมพันธ์กัน เพื่อตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่ง คุมการฉีดจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมกับการจุดระเบิด เพื่ออัตราเร่งที่ต่อเนื่อง และลดการใช้น้ำมันในขณะถอดคันเร่งให้มากกว่าหัวฉีดแบบเดิม

 

สำหรับการใช้งาน เมื่อเราขับรถเดินทาง หากเป็นเส้นทางในเมืองหรือในจังหวะที่เราต้องการกำลัง การเร่งแซง ระบบก็จะสามารถสั่งการไปที่หัวฉีดได้อย่างเหมาะสมกับการเรียกกำลังเครื่องยนต์ และหากเป็นการเดินทางออกนอกเมือง หรือเท้านิ่งวิ่งยาว ระบบก็จะคำนวณการฉีดจ่ายน้ำมันต่อรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม โดยไม่ฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้เกินความจำเป็น

 

ฉะนั้นประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งมาจากการคำนวณของระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานผ่านเซ็นเซอร์ในจุดต่างๆ บวกกับเซ็นเซอร์วัดแรงดันที่หัวฉีด i-ART จึงเป็นกุญแจสำคัญในความประหยัดของกระบะ Toyota Hilux Revo

 

 

บทความโดย: MassAutoCar


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

EV ไทยในเงื้อมมือจีน: เมื่อแผนใหญ่ต้องเจอความเสี่ยงและความท้าทาย"

20 มกราคม 2568

ข่าวร้ายส่งท้ายปี รง.เนต้าไทย เลิกจ้าง" เมื่อบริษัทแม่อ่อนแอ บริษัทลูกขาดอากาศหายใจ"

26 ธันวาคม 2567

วิเคราะห์เครื่องยนต์ใหม่ ISUZU คาด..ยังไม่ทิ้งเครื่อง 1.9 และ 3.0 เพราะ..?

16 พฤศจิกายน 2567

เวียตนาม ส่งออกเข้าไทย"สัญญาณเตือนครั้งใหญ่" หากรัฐไม่ตื่นมีล่ม

9 พฤศจิกายน 2567

BYD ผู้เปลี่ยนโฉมหน้าตลาดรถไทย และบทเรียนของผู้เร่งซื้อBEV

3 กรกฏาคม 2567

ซูซูกิ ปิดโรงงานนัยยะแฝงที่มากกว่าหยุดผลิต

7 มิถุนายน 2567

ผ่าเนื้อในรถยนต์ไทย ทำไมร่วงเละ ไตรมาส 2 ยังไร้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

7 พฤษภาคม 2567

อีซูซุ ซีรี่ส์ ตอน 4: จากเดี่ยวไดเร็คฯ สู่กระบะอีวี

28 เมษายน 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ