EN / TH

NISSAN เปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นสำหรับตลาดญี่ปุ่น ณ Japan Mobility Show 2025

30 ตุลาคม 2568

เผยโฉมฮอนด้า ซีโร่ อัลฟ่า เจาะญี่ปุ่น อินเดีย ปี70

29 ตุลาคม 2568

เปิดหน้า FJ ตัวจริงสวนกระแส EV สุดฮอตใน JMS2025

29 ตุลาคม 2568

นิสสันชงสูตรแกร่ง! เปิดตัว Elgrand-Patrol-Ariya รุ่นใหม่ ฟื้นตลาดญี่ปุ่น

29 ตุลาคม 2568

มาสด้าโชว์วิสัยทัศน์อนาคต ส่งรถ "VISION X-COUPE" และ "X-COMPACT" อวดโฉมเวทีJMS2025

29 ตุลาคม 2568

จากเครื่องใช้ไฟฟ้าสู่รถยนต์ SHARP LDK+ รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบจาก SHARP

28 ตุลาคม 2568

BYD เจาะหัวใจญี่ปุ่น เปิดตัว K-Carลุยตลาด

27 ตุลาคม 2568

ไฮไลท์ตระการตาJapan Mobility Show 2025: เวทีที่สุดนวัตกรรมจากแดนปลาดิบ

27 ตุลาคม 2568

อัพเดต ข้อมูลที่ทราบเกี่ยวกับ New TOYOTA HILUX 2026

25 ตุลาคม 2568

เปิดข้อมูล New HILUX BEV วิ่งไกลประมาณ 300 กม. มอเตอร์คู่ ขับสี่ฟูลไทม์

25 ตุลาคม 2568

BYD Sealion 6 เวอร์ชั่นกระบะ? BYD ยื่นจดสิทธิบัตรรถกระบะขนาดเล็กโครงสร้างโมโนค็อก

24 ตุลาคม 2568

CHANGAN เตรียมเปิดตัวรถใหม่อีก 7 โมเดล นำร่องก่อน 3 รุ่น

24 ตุลาคม 2568

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า รถยนต์

มาสด้าโชว์วิสัยทัศน์อนาคต ส่งรถ "VISION X-COUPE" และ "X-COMPACT" อวดโฉมเวทีJMS2025

29 ตุลาคม 2568| จำนวนผู้เข้าชม 144

 

 ญี่ปุ่น—29 ตุลาคม 2568—บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (Mazda Motor Corporation) สร้างความฮือฮาในวงการยานยนต์โลก ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบวิสัยทัศน์สองรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ "MAZDA VISION X-COUPE" และ "MAZDA VISION X-COMPACT" ครั้งแรกในงานแถลงข่าวของโตเกียวมอเตอร์โชว์( Japan Mobility Show 2025)  


 

VISION X-COUPE: ไฮบริดโรตารี่

มาสด้า  VISION X-COUPE ถือเป็นรถครอสโอเวอร์คูเป้ที่ยกระดับภาษาการออกแบบ KODO ของมาสด้าให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น โดย KODO ซึ่งแปลว่า "วิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว" ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2010 เพื่อถ่ายทอดความงามของการเคลื่อนไหวแบบธรรมชาติลงสู่รูปทรงรถยนต์ รุ่นนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ผสานรวมเครื่องยนต์โรตารี่เทอร์โบสองโรเตอร์—เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าที่เคยหายไปจากสายการผลิตมานาน—เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นล่าสุด สร้างพลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า โดยสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกล 160 กิโลเมตร และรวมระยะทางทั้งหมด 800 กิโลเมตรเมื่อใช้เครื่องยนต์ร่วมด้วย ซึ่งเทียบเท่ากับการเดินทางข้ามประเทศโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงบ่อยครั้ง

 

 

 

จุดเด่นที่โดดเด่นและสร้างความประหลาดใจให้กับนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญในงาน คือการนำเชื้อเพลิงที่เป็นกลางทางคาร์บอนจากสาหร่ายขนาดเล็ก (microalgae) มาผสานกับเทคโนโลยี Mazda Mobile Carbon Capture ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของมาสด้า ระบบนี้ทำงานโดยดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ แล้วนำไปใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในวงจรปิด ช่วยให้ยิ่งขับมากยิ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้มากขึ้น คาดว่าสามารถลดคาร์บอนได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับรถไฮบริดทั่วไป นอกจากนี้ ดีไซน์ภายนอกยังใช้แผงโซลาร์เซลล์แบบโปร่งใสที่ฝากระโปรงหน้า เพื่อชาร์จแบตเตอรี่เพิ่มเติมจากแสงแดด สร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับขี่อันเร้าใจ—ด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งให้ตอบสนองแบบจินบะอิไต (Jinba Ittai: มนุษย์กับรถเป็นหนึ่งเดียว)—และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมาสด้ามองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการตอบโจทย์กฎระเบียบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลกในปี 2030


 

VISION X-COMPACT: รถอัจฉริยะที่กลายเป็นเพื่อนคู่ใจ

มาสด้า VISION X-COMPACT เป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่มุ่งเน้นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับขี่และยานพาหนะให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี "แบบจำลองร่างกายและอารมณ์ของมนุษย์" (Human Body and Emotion Model) ที่แปลงประสาทสัมผัสของมนุษย์—เช่น การเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ และการแสดงสีหน้า—ให้เป็นข้อมูลดิจิทัล ผสานกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้ ทำให้รถสามารถสนทนาแบบเป็นกันเอง แนะนำเส้นทางที่เหมาะสมกับอารมณ์ เช่น เส้นทางผจญภัยหากผู้ขับรู้สึกตื่นเต้น หรือเส้นทางผ่อนคลายหากเครียด และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ราวกับเป็น "เพื่อนสนิทคู่ใจ" บนท้องถนน

 

 

เทคโนโลยีนี้พัฒนาจากระบบ i-Activsense ของมาสด้าในปัจจุบัน แต่ก้าวกระโดดด้วยการใช้ AI เจเนอเรทีฟที่เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว—ข้อมูลทั้งหมดประมวลผลบนคลาวด์ส่วนตัวของผู้ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ รถยังมีระบบ "Emotional Sync" ที่ปรับแสงภายใน สีแดงและเพลงประกอบตามอารมณ์ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายหรือกระตุ้นความตื่นเต้น นับเป็นก้าวสำคัญสู่การเดินทางอัจฉริยะที่มาสด้าจินตนาการไว้ โดยเน้นการสร้างสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างคนและรถ ซึ่งในยุคที่รถยนต์ไร้คนขับกำลังมาแรง มาสด้ายังยืนยันว่าการขับขี่ด้วยตัวเองยังคงเป็นหัวใจของความสุข โดยรุ่นนี้เหมาะสำหรับเมืองใหญ่ที่ต้องการรถขนาดเล็กแต่ฉลาด ช่วยลดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับได้ถึง 40% ตามการจำลองของบริษัท


 


 CX-5 ใหม่: วิวัฒนาการ SUV สู่ยุคดิจิทัล

นอกจากรถต้นแบบ ปีนี้มาสด้ายังนำ Mazda CX-5 รุ่นใหม่ (สเปกยุโรป) มาจัดแสดงครั้งแรกในโลกเช่นกัน ซึ่งเป็นการอัพเกรดจากรุ่นยอดนิยมที่มียอดขายสะสมกว่า 4.5 ล้านคันในกว่า 100 ประเทศตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 รถรุ่นนี้มาพร้อมห้องโดยสารกว้างขวางในดีไซน์ Soul of Motion ที่ประณีต ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติญี่ปุ่น เช่น การไหลของน้ำหรือลม สมรรถนะการขับขี่แบบจินบะอิไต (Jinba Ittai: มนุษย์กับรถเป็นหนึ่งเดียว) และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ "Mazda E/E ARCHITECTURE+" ที่มอบประสบการณ์ขับขี่เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดยรวมระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เช่น การตรวจจับคนเดินถนนในที่มืดและการจอดอัตโนมัติเต็มระบบ 

CX-5 รุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์ไฮบริด e-Skyactiv-G ที่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้เหมาะสำหรับตลาดยุโรปที่เน้นสิ่งแวดล้อม และคาดว่าจะช่วยยกระดับยอดขายของมาสด้าในเซกเมนต์ SUV ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 30% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การอัพเดตนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ลูกค้าประจำ แต่ยังดึงดูดผู้ซื้อรุ่นใหม่ที่มองหาความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและความสนุกในการขับ

 

 

แผน5 ปี ลงทุน 2ล้านล้านเยน

นายมาซาฮิโระ โมโระ (Masahiro Moro) ประธานและซีอีโอของมาสด้า กล่าวในงานแถลงข่าวว่า "คำกล่าวที่ว่า 'ความสุขในการขับขี่สร้างรอยยิ้มให้กับโลก' คือรากฐานของมาสด้าและเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามในอนาคตของเรา ด้วยพันธกิจร่วมกันในการทำให้ทุกคนมีคาร์บอนเป็นศูนย์ เราเชื่อว่า 'ความสุขในการขับขี่' สามารถเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาอนาคตของสังคมและโลกใบนี้ และเราจะยังคงเติมเต็มความปรารถนาขของผู้ที่ 'รักรถยนต์' และ 'อยากขับขี่ตลอดไป' ต่อไป" คำพูดนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งรวมถึงตัวแทนจากรัฐบาลญี่ปุ่นและพันธมิตรด้านพลังงานหมุนเวียน

 

 

นายโมโระ เน้นย้ำถึงแผนการลงทุน 2 ล้านล้านเยนในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนนิวทรัลและ AI สำหรับยานยนต์ ซึ่งจะช่วยให้มาสด้าแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และ Tesla ได้อย่างสูสี โดยเฉพาะในตลาดเอเชียและยุโรปที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ EV อย่างรวดเร็ว

มาสด้า ยืนยันว่า มาสด้า เดินหน้าพัฒนาความพึงพอใจในการขับขี่ โดยยึดหลักคุณค่าที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เพิ่มความตื่นเต้นให้กับชีวิตประจำวันของลูกค้าทั่วโลก งาน Japan Mobility Show 2025 ยังคงเป็นเวทีสำคัญที่มาสด้าจะนำเสนอวิสัยทัศน์ต่อไป

 

 


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

NISSAN เปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นสำหรับตลาดญี่ปุ่น ณ Japan Mobility Show 2025

30 ตุลาคม 2568

นิสสันชงสูตรแกร่ง! เปิดตัว Elgrand-Patrol-Ariya รุ่นใหม่ ฟื้นตลาดญี่ปุ่น

29 ตุลาคม 2568

เผยโฉมฮอนด้า ซีโร่ อัลฟ่า เจาะญี่ปุ่น อินเดีย ปี70

29 ตุลาคม 2568

เปิดหน้า FJ ตัวจริงสวนกระแส EV สุดฮอตใน JMS2025

29 ตุลาคม 2568

BYD เจาะหัวใจญี่ปุ่น เปิดตัว K-Carลุยตลาด

27 ตุลาคม 2568

ไฮไลท์ตระการตาJapan Mobility Show 2025: เวทีที่สุดนวัตกรรมจากแดนปลาดิบ

27 ตุลาคม 2568

อัพเดต ข้อมูลที่ทราบเกี่ยวกับ New TOYOTA HILUX 2026

25 ตุลาคม 2568

BYD Sealion 6 เวอร์ชั่นกระบะ? BYD ยื่นจดสิทธิบัตรรถกระบะขนาดเล็กโครงสร้างโมโนค็อก

24 ตุลาคม 2568

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ