
รุ่นย่อย TrailSport เดิมทีมีจำหน่ายอยู่แล้วใน Honda Passport แต่ในปีนี้เปิดตัวครั้งแรกในรุ่น CR-V โดยจะมีเฉพาะในรุ่น CR-V Hybrid เท่านั้น ทำให้รุ่นนี้เป็น TrailSport รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด CR-V TrailSport ได้รับการปรับแต่งดีไซน์ให้พร้อมลุยมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุดเพื่อให้ดูบึกบึนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดกันชนหน้าและหลังที่ดูคล้ายแผ่นกันกระแทกแบบออฟโรด โลโก้ Trailsport บริเวณกระจังหน้าและฝากระโปรงท้าย มือจับประตูสีดำเงา ขอบกระจกและสปอยเลอร์สีดำเงา รวมถึงสีตัวถัง Ash Green Metallic ที่ยกมาจาก Honda Passport ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สี Shark Gray มีการออกแบบให้ซ่อนจุกลมไว้ลึก เพื่อช่วยป้องกันจากหินหรือกิ่งไม้ขณะขับบนทางทุรกันดาร รัดด้วยยาง Continental CrossContact ATR แบบ all-terrain ขนาด 235/60R18 มาจากโรงงาน CR-V TrailSport ไม่ได้มีการปรับช่วงล่างเป็นพิเศษและไม่ได้ติดตั้งแผ่นกันกระแทกจริงๆ ซึ่งต่างจากรุ่นพี่อย่าง Honda Passport
สำหรับตัวเลือกขุมพลัง CR-V ปี 2026 มีดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ในรุ่นย่อย LX, EX และ EX-L
- เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร ในรุ่นย่อย Sport Hybrid, Sport-L Hybrid, Sport Touring Hybrid, และรุ่นย่อยใหม่ TrailSport Hybrid (วางตำแหน่งไว้ระหว่างรุ่น Sport Hybrid และ Sport-L Hybrid)
ทุกรุ่นย่อยของ CR-V ในปี 2026 จะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสที่มีขนาดอย่างน้อย 9 นิ้ว (จากเดิม 7 นิ้วในรุ่นเริ่มต้น) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายทุกรุ่นย่อย, แท่นชาร์จไร้สาย แต่รุ่นย่อย TrailSport จะได้อุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น พวงมาลัยและเบาะนั่งพร้อมระบบทำความร้อน, หลังคาซันรูฟ, ฝาท้ายไฟฟ้า และหน้าปัดดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งปกติจะมีเฉพาะในรุ่น EX-L ขึ้นไป