 
                        Japan Mobility Show 2025 (JMS2025)หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่าโตเกียวมอเตอร์โชว์( Tokyo Motor Show) กำลังจะเริ่มงานแสดงอีกครั้ง ณ ศูนย์แสดงสินค้าโตเกียว บิกซ์ ไซท์(Tokyo Big Sight)โดยรอบสื่อมวลชนเริ่ม วันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2568 และรอบบุคคลทั่วไป วันที่ 31 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้คอนเซ็ปงาน " Let’s go explore an exciting future!" งานนี้ไม่ใช่แค่การแสดงรถยนต์ แต่เป็นเทศกาลของยานยนต์ และการขับเคลื่อน ซึ่งรวมเทคโนโลยี การออกแบบที่สร้างสรรค์ และโซลูชันที่ล้ำสมัยเข้าด้วยกัน Massautocar นำท่านสำรวจ รถเด่นจากค่ายรถยนต์สำคัญที่เข้าร่วมงาน
Toyota: ชูโคโรลล่า EVเปิดโลกรถยนต์ไฟฟ้า 
เจ้าบ้านอย่างโตโยต้า (Toyota) ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และของโลกยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ในฐานะเจ้าบ้านปีนี้ไฮไลต์หลักของโตโยต้า อยู่ที่ โคโรลล่าไฟฟ้า ( Electric Corolla Concept) เป็นการเผยโฉมเวอร์ชันไฟฟ้า เป็นครั้งแรกของโคโรลล่า  ปกตินั้นโตโยต้าจะออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยรุ่นเฉพาะแต่มาครั้งนี้โตโยต้านำ รถรุ่นขายดี มาพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีรถสุดหรูหรา โดยการแปลงร่างรถซีดานหรูหราอย่าง Century ให้กลายเป็นคูเป้ 2 ประตูแบบแกรนด์ทัวริ่ง ในชื่อ Century Coupe Concept  ซึ่งน่าจะมีการทำเป็นโปรดักชั่นคาร์ในเร็วๆ นี้ นอกจากรถคอนเซ็ปแล้ว Toyota ยังจะเปิดตัวรถพร้อมทำตลาดในปี 2027 อย่างเช่น แลนด์ ครูสเซอร์ FJ ใหม่ ที่กำลังร้อนแรงในโลกออนไลน์บ้านเรา แม้ว่าการผลิตจริงจะเริ่มปีหน้า แต่ดูเหมือนมีคนรอจองแล้วจำนวนมาก
ด้านเล็กซัส(Lexus) ซึ่งเป็นแบรนด์หรูในเครือ เล็กซัสนำเสนอธีม "Pushing the Boundaries of the Electrified Experience" ด้วยคอนเซ็ปต์ BEV รุ่นใหม่ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่ไฟฟ้าที่เหนือชั้น โดยได้ปล่อยทีเซอร์ก่อนงาน ในรุ่น มินิแวนอย่าง LS Concept โดยระบุว่า LS คอนเซ็ปต์จะไม่ใช่ซีดานแบบเดิม แต่เป็น “มินิแวน / MPV” ขับเคลื่อนล้อ 6 ล้อ (สองล้อหน้า + สี่ล้อหลัง) ใช้ชื่อ LS แต่มีความหมายใหม่ว่า “Luxury Space” มากกว่า “Luxury Sedan” และเป็นรถไฟฟ้าเบาะนั่ง 3 แถว (6 ที่นั่ง).jpg)
Nissan: รถอัจฉริยะเต็มเวที 
ค่ายนิสสัน(Nissan) ในฐานะรถยนต์แบรนด์เก่าแก่ขวัญใจคนโตเกียว ปีนี้มาพร้อมธีม "Intelligent Future" โดยนำเสนอวิสัยทัศน์ภายใต้กลยุทธ์ Re:Nissan ที่มุ่งฟื้นฟูไลน์อัพด้วยรุ่นล้ำสมัย ไฮไลต์เด่นของนิสสัน คือ All-New Elgrand เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งเป็นมินิแวนหรูหราที่ผสานดีไซน์ใหม่กับเทคโนโลยีไฮบริด ต่อด้วย Next-Generation Leaf รถ EV ยอดนิยมรุ่นใหม่จะมาในเจนที่ 3 ซึ่งยกระดับการขับขี่และระยะทางวิ่งให้ดีขึ้น ขณะที่ Ariya รถครอสโอเวอร์ EV จะได้รับการอัปเดต(Facelifted) ด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และฟีเจอร์การขับขี่ สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต Nissan จะโชว์รถ Formula E ที่ชนะแชมป์ฤดูกาล 2024/2025 นิสสันยังเน้น เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติและโซลูชันยั่งยืน บูธของ Nissan ออกแบบในสไตล์มังงะ โดยสร้างเมืองจำลองขนาดเท่าจริงเพื่อให้ผู้ชมสัมผัสประสบการณ์แบบ immersive ทำให้งานนี้ไม่ใช่แค่ดูรถ แต่เป็นการมีส่วนร่วมกับอนาคต.jpg)
.jpg)

Honda: จับตาCompact EV ตัวใหม่ลุยตลาด 
ค่ายฮอนด้า(Honda) หลายๆปีที่ผ่านได้พยายามนำเสนอตัวเองในฐานะบริษัท mobility ครบวงจร คือ ขยายขอบเขตโดยครอบคลุมทั้ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) อากาศยาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ รถยนต์ต้นแบบ(Prototype)รุ่นใหม่ภายใต้ Honda 0 Series (เปิดตัวครั้งแรกในโลก) ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงรถต้นแบบ SUV รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไลน์อัป Honda 0 Series เป็นครั้งแรกในโลก

■ รถยนต์ต้นแบบ Compact EV (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ฮอนด้า จัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ(Prototype) Compact EV ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “Fun of driving” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า โดยผสานการใช้งานที่ดีเยี่ยมเข้ากับ “ความสุขในการขับขี่” หรือ “Joy of driving” ได้อย่างลงตัว โดยรถต้นแบบรุ่นนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณความสนุกสนานของฮอนด้า ที่พร้อมสร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้แก่ลูกค้าปัจจุบัน รถต้นแบบรุ่นนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบจริงในหลายประเทศที่มีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาด Compact  เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และประเทศในเอเชีย

■ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบConcept Model (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ในส่วนของสองล้อ ฮอนด้าเผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดใหม่ ที่ท้าทายและก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิม ๆ เพื่อส่งมอบ ความตื่นเต้น และประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้า

■ รถจักรยานไฟฟ้าต้นแบบ Honda e-MTB (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ต่อเนื่องจากการจัดแสดงรถจักรยานคอนเซปต์ในปี 2563 ครั้งนี้ ฮอนด้าเตรียมเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลก กับHonda e-MTB รถจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นรุ่นที่วางแผนจะผลิตจริง จักรยานยนต์ไฟฟ้าคันนี้มาพร้อมฟังก์ชันช่วยขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Ride Natural, Reach New Peaks” เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ สู่จุดหมายใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น
 
■ งานอวกาศก็มา Sustainable Rocket
ฮอนด้า ยังได้จัดแสดงโมเดลต้นแบบของ Sustainable Rocket ซึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบปล่อยและลงจอด ณ เมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยจรวดรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาภายใต้เป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนสู่ สังคมเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutral society) ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่สามารถนำจรวดกลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงแบบหมุนเวียนได้ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของฮอนด้าในการขยายขอบเขตจากพื้นโลกไปสู่ห้วงอวกาศ
ในส่วนของรถยนต์รุ่นผลิตจริงเต็มเวทีฮอนด้าเช่นกัน
All-new Honda Prelude (รุ่นผลิตจริง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2568) Honda Prelude ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฮบริดเฉพาะของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น โดย Honda Prelude ใหม่ เปรียบเสมือนเป็น “บทนำ” (Prelude) สำหรับรถสปอร์ตเฉพาะทางระดับพรีเมียมจากฮอนด้าในอนาคต พร้อมส่งต่อแนวคิด “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “joy of driving” สู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว

■ N-ONE e:(รุ่นผลิตจริง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2568)  N-ONE e: ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจาก Honda N360 ซึ่งเป็นรุ่นต้นกำเนิดรถยนต์นั่งฮอนด้า โดยคงไว้ซึ่งดีไซน์ภายนอกที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง และความคล่องตัวในการขับขี่ N-ONE e: มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและเงียบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ EV โดยฮอนด้ามุ่งมั่นสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กนี้ให้เป็น "Standard EV" ที่ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นในวงกว้าง
CB1000F/CB1000F SE (รุ่นวางแผนผลิตจริง) จักรยานยนต์ฮอนด้า จัดแสดง CB1000F ใหม่ และ CB1000F SE ใหม่ ในฐานะสมาชิกใหม่ในไลน์อัปของ CB Series ซึ่งเป็นแบรนด์ของรถจักรยานยนต์ Road Sports จากฮอนด้า โดย CB1000F ใหม่ จะถ่ายทอดจิตวิญญาณมาตรฐานสปอร์ตไบค์ที่ก้าวล้ำอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ CB1000F SE จะสะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบสุดคลาสสิกของ CB1000F ไว้อย่างโดดเด่น

ในส่วนของจักรยานยนต์อื่นๆ ที่จัดแสดงเช่น Rebel 1100 S Edition (DCT) ฮอนด้า Rebel 250 S Edition E-Clutch  จักรยานยนต์ฮอนด้า CRF 1100L Africa Twin Adventure Sports ES (DCT)
,ฮอนด้า CT125 Hunter Cub และฮอนด้า DAX 125
.jpg)
Subaru: เมื่อSTi เป็นEV
ซูบารุ(Subaru)รถที่บ้านเราอาจจะไม่ร้อนแรงแต่ในญี่ปุ่น รถสมรรถนะสูงแบรนด์นี้ มักได้รับการกล่าวถึงปีนี้ซูบารุ เน้นธีมหลักคือประสิทธิภาพและการผจญภัย โดยนำเสนอ STI Performance-E Concept รถ EV สปอร์ตที่หัวใจหลักคือสมรรถนะสูง ขณะที่ STI Performance-B Concept ยังคงใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์แบบดั้งเดิมเพื่อรักษาเอกลักษณ์ ซูบารุยังนำเสนอรถ Trailseeker EV เป็นรถ EV สำหรับการผจญภัย  และ Wilderness Prototype สำหรับ Forester และ Outback ซึ่งเป็นเวอร์ชันออฟโรดสำหรับทดสอบตลาด โดยเพิ่มความแข็งแกร่งและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้ ยังมี 1983 Subaru GL Family Huckster รถแวกอนสมรรถนะสูงกว่า 800 แรงม้า เพื่อย้อนรำลึกมรดก Subaru กำลังขยายไลน์ Wilderness สู่ตลาดโลก ซึ่งอาจหมายถึงการมาของรุ่นออฟโรดเพิ่มเติมในอนาคต


Mazda: มาสด้า3 ใหม่กำลังมา
มาสด้ามาพร้อมธีม "The joy of driving fuels a sustainable tomorrow" โดยการเปิดตัวรถคอนเซ็ป และรถใหม่หลายรุ่น ไฮไลท์ที่รอคอยคือ Vision Model: คอนเซ็ปต์ใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกของโลกในงานนี้ เป็นรถ 4 ประตูสไตล์แฟสต์แบ็ค (fastback) ที่ดูคล้ายซีดานแต่มีความเป็นครอสโอเวอร์ ดีไซน์เพรียวบาง หลังคาลาดเอียง หน้าต่างไร้กรอบ ประตู และพื้นผิวเรียบเนียน โค้งมนสวยงามว่ากันว่าคันนี้เป็นการบอกเป็นนัยว่า มาสด้า 3 โฉมใหม่กำลังจะมาถึงแล้ว โดยอาจใช้ระบบขับเคลื่อนสะอาด เช่น ไฟฟ้า ไฮบริด หรือเชื้อเพลิงทางเลือก มาสด้ายังคงยึดมั่นในปรัชญา "Jinba Ittai" หรือความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ ทำให้ไฮไลต์เหล่านี้ไม่เพียงล้ำสมัยแต่ยังมอบความสนุกในการขับขี่

ไฮไลท์รถโปรดักชั่นบนเวทีคือ All-New CX-5: รถ SUV รุ่นใหม่ที่เปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรก (เวอร์ชันยุโรป) โดยเป็นรถโปรดักชันที่จะวางตลาดในอนาคต เน้นการอัปเดตดีไซน์และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนและความสนุกในการขับขี่.จัดแสดงสาธารณะเป็นครั้งแรก มาสด้า CX-30 SeDV (Self-empowerment Driving Vehicle): รถพิเศษสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยจัดแสดงในส่วน Tokyo Future Tour 2035 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์รถที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน. นอกจากนี้ยังมีมาสด้า Spirit Racing RS Future Concept: คอนเซ็ปต์รถสปอร์ตที่เน้นสมรรถนะสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง สะท้อนจิตวิญญาณการแข่งขันของมาสด้าและ RX-7 (Classic Model): รถสปอร์ตโรตารี่รุ่นคลาสสิกที่นำมาจัดแสดงเพื่อย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์การขับขี่ที่สนุกสนานของมาสด้า. สำหรับรถโปรดักชันรุ่นปัจจุบันที่นำมาจัดแสดงเพื่อเน้นไลน์อัปได้แก่ CX-60 และ CX-80
Suzuki: เผยโฉม อี-วีทาร่า
ซูซูกิ (Suzuki)   ใช้ธีม "By Your Side" เพื่อนำเสนอรถที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง โดยนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นโปรดักชัน คาร์ (production) หรือใกล้เคียงการวางตลาดในอนาคต โดยเน้นรถยนต์ไฟฟ้าและยานพาหนะขนาดกะทัดรัดสำหรับตลาดญี่ปุ่นและทั่วโลก 
e Vitara: รถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นใหม่ (BEV) ที่เป็นโปรดักชันแล้ว โดยผลิตที่โรงงานในอินเดียและวางขายในญี่ปุ่นและตลาดอื่นๆ ในช่วงปลายปี 2025 เน้นการขับขี่แบบ 4x4 และระยะทางไกล เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและนอกเมือง มีแผนขยายตลาดทั่วโลกเพื่อสนับสนุนคาร์บอน neutrality.

Vision e-Sky: มินิ BEV รถแฮทช์แบ็คไฟฟ้าขนาดเล็ก (kei car EV) สำหรับการใช้งานในเมือง ขนาดยาว 3.395 ม. กว้าง 1.475 ม. สูง 1.625 ม. ให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 270 กม. (WLTP) และกำลังมอเตอร์ 64 แรงม้า แผนผลิตและวางตลาดญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม 2027
X-Bee (facelift): รถครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นอัปเดต โดยปรับปรุงดีไซน์และเทคโนโลยีเพื่อวางตลาดในญี่ปุ่นและเอเชีย เน้นความอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก

Jimny Nomade: รถ SUV ออฟโรดขนาดเล็กเวอร์ชัน 5 ที่นั่งรุ่นใหม่ โดยพัฒนาจาก Jimny รุ่นมาตรฐาน มีแผนวางตลาดในญี่ปุ่นและตลาดที่ต้องการรถออฟโรดขนาดกะทัดรัด เน้นความทนทานและการขับขี่นอกถนน.
Spacia: รถ MPV ขนาดเล็ก (kei car) รุ่นอัปเดตโดยปรับปรุงพื้นที่ภายในและประสิทธิภาพเชื้อเพลิง วางขายในญี่ปุ่นและมีแผนขยายสู่ตลาดอื่นๆ สำหรับครอบครัวในเมือง.
นอกจากนี้ ยังมี Fronx FFV Concept ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์แบบ flexible fuel (รองรับเอทานอล E85) ที่ใกล้เข้าสู่โปรดักชันสำหรับตลาดอินเดียและเอเชียโดยแสดงเพื่อเน้นทางเลือกเชื้อเพลิงชีวภาพ
.jpg) 
 
ส่วนของ2 ล้อ ไฮไลต์คือ MOQBA 2 รถจักรยานยนต์ 4 ล้อ และ e-VanVan มินิไบค์ไฟฟ้าซูซูกิยังนำเสนอหุ่นยนต์และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ mobility ที่ครอบคลุม
.jpg)
Mitsubishi: การผจญภัยที่ไม่มีวันสิ้นสุด
มิตซูบิชิ(Mitsubishi) มาพร้อมธีม "FOREVER ADVENTURE" โดยนำเสนอ Triton Pickup และ Outlander PHEV ที่เน้นความทนทานสำหรับการผจญภัย นอกจากนี้ยังนำ Delica Mini และ Delica D:5 รถสำหรับการใช้งานในเมืองและออฟโรด มาจัดแสดง ส่วนรถคอนเซ็ป คาร์ ด้แก่ Surprise Concept Vehicle จุดเด่นที่เปิดเผยดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่ ในบูธยังมีกิจกรรมเช่น Voice Novel และ Interactive Content เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย
Daihatsu: นวัตกรรมเจ้าตลาดรถเล็ก
ไดฮัทสุ(Daihatsu) ในฐานะแบรนด์ในเครือ Toyota แม้บ้านเราไม่มีรถแบรนด์นี้จำหน่ายแต่ความเคลื่อนไหวของไดฮัทสุ ก็เชื่อมโยงรถบางรุ่นในเมืองไทย   ไฮไลต์เด่นคือการคืนชีพรถคลาสสิกอย่าง All-New Electric Midget X ซึ่งเป็นเวอร์ชันไฟฟ้าของ Midget รถขนาดเล็กยอดนิยมในอดีต โดยออกแบบให้เป็นรถ LCV (Light Commercial Vehicle) ที่น่ารักและใช้งานได้จริงในเมือง ร่วมกับคอนเซ็ปต์อื่นๆ ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์เฉพาะตัว ไดฮัทสุ จัดแสดงรถร่วมกับบูธใหญ่ของโตโยต้า
.jpg)
BYD: เค- คาร์ ใหม่จากจีนสู่ตลาดญี่ปุ่น
บีวายดี(BYD) ผู้ผลิต EV ชั้นนำจากจีน ได้เข้าร่วมงานเพื่อตอกย้ำการขยายตลาดในญี่ปุ่น โดยนำเสนอไลน์อัพรถพลังงานใหม่ที่หลากหลาย ไฮไลต์หลักคือ BYD Kei Car สำหรับตลาดญี่ปุ่น คาดว่าจะมีแบตเตอรี่ 20kWh และวิ่งได้ 180 กม. ตามมาตรฐาน WLTC ขายในราคาประมาณ 2.5 ล้านเยน (18,000 ดอลลาร์สหรัฐ) แข่งขันกับ Nissan Sakura และ Honda N-One
 Kei Car เป็นตลาดใหญ่ในญี่ปุ่นยอดขาย 1.5 ล้านคันและครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศ 40%   คาดว่า รถ EV ขนาดเล็กนี้ จะวางขายในปี 2569,  นอกจากนี้ยังเปิดตัว BYD J7 รถมินิแวนไฟฟ้า และ Sealion 7 รถ SUV EV ที่เน้นสมรรถนะสูง นอกจากนี้ ยังโชว์ Dolphin รถแฮทช์แบ็ก EV ยอดนิยม และ Seal รถซีดานไฟฟ้าที่เน้นดีไซน์สปอร์ต

Hyundai: ฮุนไดโชว์ของ รถไฮโดรเจนใหม่
ฮุนได(Hyundai) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ จากเกาหลีใต้ เจ้าของยอดขายรถยนต์ใหม่ประจำปีสูงสุดเป็นอันดับสามของโลก งานนี้เป็นครั้งแรกที่ฮุนได เข้าร่วมงาน Japan Mobility Show นับตั้งแต่กลับมาจัดแสดงหลังจากหยุดไปเพราะโควิด  Hyundai ได้นำเสนอ "ไลฟ์สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า" อย่างต่อเนื่อง โดยมีรถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง "IONIQ 5" รถยนต์อี-เอสยูวีขนาดกลาง "KONA" และรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด "INSTER" ซึ่งเปิดตัวในปีนี้
ฮุนได ได้สร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัย โดยเน้นย้ำถึง "ไลฟ์สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า" ฮุนไดยังประกาศเปิดตัว "IONIQ 5 N" รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่พัฒนาต่อยอดจาก IONIQ 5 และมาพร้อมตัวอักษร "N" ซึ่งเป็นตัวแทนของสายผลิตภัณฑ์สปอร์ตของฮุนได ฮุนไดยังมุ่งเน้นไปที่รถโดยสารไฟฟ้า และรถโดยสารไฟฟ้าขนาดกลาง "Electricity Town" จะถูกจัดแสดงที่นิทรรศการ "Working Mobility" ณ ลานจอดรถชั่วคราวกลางแจ้งของอาคารฝั่งตะวันออก อย่างไรก็ตาม จุดสนใจหลักของฮุนไดในงาน Japan Mobility Show 2025 คือไฮโดรเจน
ฮุนไดได้พัฒนารถยนต์ไฮโดรเจนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และในปี พ.ศ. 2556 ฮุนไดประสบความสำเร็จในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน (FCEV) ที่ผลิตจำนวนมากคันแรกของโลก ทำให้ฮุนไดกลายเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน
งาน Japan Mobility Show 2025 จะเริ่มต้นด้วยการแนะนำประวัติศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนของฮุนได ตามด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์ของสังคมพลังงานไฮโดรเจนที่ฮุนไดได้วางไว้ภายใต้แบรนด์ธุรกิจไฮโดรเจน "HTWO" ซึ่งประกอบด้วยห่วงโซ่คุณค่าสี่ด้าน ได้แก่ การผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ และการใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างสังคมพลังงานไฮโดรเจนที่ยั่งยืน "Nesso" รุ่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นเช่นกัน แม้จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่คล้ายคลึงกับ IONIQ 5 แต่ภายนอกที่ออกแบบด้วยภาษาการออกแบบ "Art of Steel" ใหม่ของฮุนไดก็คุ้มค่าแก่การรับชม
Mercedes-Benz: หรูหราและนวัตกรรมสำหรับอนาคต
เมอร์เซเดส-เบนซ์(Mercedes-Benz) จากเยอรมนี นำเสนอวิสัยทัศน์ luxury mobility ด้วยไฮไลต์หลักคือ Mercedes-Benz Vision V คอนเซ็ปต์แวนที่ผสานความหรูหรากับประสบการณ์ immersive โดยใช้เทคโนโลยี EV และระบบอัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังเปิดตัวรถบรรทุก Mercedes-Benz Actros และ Arocs สำหรับตลาดญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Arocs 4763 8x6 ที่เน้นความทนทานสำหรับงานหนัก Mercedes-Benz เน้นการผสมผสานระหว่าง luxury กับ sustainability ทำให้บูธของพวกเขาเป็นตัวแทนของแบรนด์ยุโรปที่บุกตลาดเอเชีย
BMW Group 
ค่ายBMW ร่วมจัดแสดงในงาน Japan Mobility Show 2025 ด้วยไฮไลท์ สำคัญ 3 ไฮไลท์คือ ประสบการณ์ดิจิทัล,การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม โดยโมเดลที่จัดแสดงไฮไลท์คือ บีเอ็มดับเบิลยู iX3 ใหม่  ซึ่งBMW iX3 ดีไซน์ใหม่สะท้อนสุนทรียศาสตร์ของ BMW ในรูปแบบที่ทันสมัย รูปลักษณ์ภายนอกที่สมดุลสวยงามสะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น ขณะที่ภายในที่ผสานรวมคุณภาพระดับสูงและฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว มอบพื้นที่อันสะดวกสบายที่จะทำให้คุณอยากอยู่ในนั้นตลอดไป ยิ่งไปกว่านั้น BMW Panoramic iDrive ซึ่งเป็นวิวัฒนาการจากปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่แบบดั้งเดิมของ BMW มอบความใช้งานง่ายและความสะดวกสบายที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยที่การควบคุมรถอย่างง่ายดาย มอบความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวและดื่มด่ำไปกับตัวรถ BMW iX3 ใหม่ มีกำหนดเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2026 เป็นต้นไป
ส่วนรถโมเดลอื่นๆ ที่จัดแสดง ประกอบไปด้วย BMW Concept Speedtop,บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS,BMW X7 นิชิกิ เลานจ์,บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS VR46,BMW 2002 เทอร์โบ,BMW iX5 ไฮโดรเจน,บีเอ็มดับเบิลยู iX1,BMW ซีรีส์ 5 แบบฐานล้อยาว
 
 
 
                     
                                                     
                                                     
                                                     
                                                     
                             
                             
                             
                             
                             
                             
                             
                             
                             
                             
                             
                                                         
                                                         
                                                        