บีวายดี (BYD) เตรียมรุกโมเดลใหม่ในปี 2567 เปิดตัวซีรีส์เอนกประสงค์ (SUV) ใหม่ ซีไลออน (Sea Lion) หรือ หยวน อัพ อีวี (Yuan UP EV) โดย Sea Lion 07 จะเป็นรุ่นเริ่มต้น ของซีรีส์ใหม่ และจะเริ่มส่งมอบในจีน ในไตรมาสที่ 2 ของปี บีวายดี Song L SUV ใหม่ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามโดยสามารถทำยอดขายได้ 10,003 คัน ใน 2 สัปดาห์หลังการเปิดตัว นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการสร้างกำไรค่อนข้างมากของบีวายดี จะถูกส่งเข้าสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ YangWang ซึ่งเป็นรถซีดานหรูหรา เริ่มต้นจากรุ่น U6 และ U9 ซึ่งเป็นรถซุปเปอร์คาร์ ในขณะที่แบรนด์ฝางเฉิงเปา (Fang Cheng Bao-แบรนด์ อันดับที่ 5 ของบีวายดี) จะเปิดตัวรถ SUV อีก 2 รุ่น ได้แก่ เปา 3 (Bao 3) และเปา 8 (Bao 8) ในทางกลับกัน มีข่าวลือว่า Tesla จะเริ่มการผลิต Tesla Model Y ที่ได้รับการปรับปรุงจำนวนมากซึ่งมีชื่อรหัสว่า Juniper ในเดือนเมษายนที่ Giga Shanghai Model Y แหล่งผลิตที่ถือว่าเป็นฮีโร่ของเทสลา ในประเทศจีน เนื่องจากยอดขาย Model 3 ถูกแซงหน้า ในปี 2023 โดยกลุ่มรถเก๋งไฟฟ้าเซกเมนต์มูลค่า 200,000 หยวน (BYD Seal, BYD Han, Xpeng P7i, Neta S, Rising F7, …)
ในปี 2024 สงครามราคาของจีน ซึ่งเทสลาเริ่มต้นเปิดประเด็นมาครั้งแรกเมื่อปี 2022 จะดำเนินต่อไป และเชื่อว่าในปี 2024 น่าจะได้เห็นอาการเสียศูนย์ของผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้านทานเรื่องการแข่งขันของราคาไม่ไหว เนื่องจากราคา EV ในจีนอยู่ที่จุดต่ำสุด เฉพาะผู้ผลิตรถที่มีเงินมากๆ และเป็นเงินเย็น เท่านั้นจึงจะสามารถอยู่รอดได้ ค่ายบีวายดี และเทสลา เป็นหนึ่งในกลุ่มที่อยู่ฝั่งผู้ชนะอย่างแน่นอน และคงจะน่าตื่นเต้นที่ได้ชมการแข่งขันระหว่างสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก BEV
ก่อนหน้านี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 บีวายดีสามารถทำยอดขายแซงเทสลา ในฐานะผู้นำด้าน EV โดยขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดได้ 526,409 คัน ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐฯ จำหน่ายรถยนต์ได้ 484,507 คัน ประมาณการประจำปีบีวายดีมียอดขายทะลุ 3 ล้านคัน และเทสลามียอดขาย 1.8 ล้านคันในปี 2566
สถิติไตรมาส 4 ปี 2023 พบว่าบีวายดีสามารถทำยอดด้วยการทำลายสถิติสูงสุดจำนวน 942,651 คัน ในปริมาณนี้ 55% เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และ 45% เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) บีวายดี หยุดการผลิตรถยนต์ ICE ในเดือนเมษายน 2022
บีวายดี เป็นผู้ผลิตรถยนต์ในเซินเจิ้น ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าปี 2023 ได้ 3,023,679 คัน เพิ่มขึ้น 62% จากปี 2565 และประมาณ 52% เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 1,574,804 คัน ส่วน เทสลา ส่งมอบรถในปี 2566 ได้ 1,808,581 คัน เพิ่มขึ้น 38% จาก 1,313,851 ในปีก่อนหน้า บีวายดีมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นผู้ผลิต EV ชั้นนำจนถึงปี 2024
บีวายดี ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทแบตเตอรี่ โดยเข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในช่วงกลางทศวรรษ 2000 ได้รับการสนับสนุนจากวอร์เรน-บัฟเฟตต์นักลงทุนชื่อดังของโลก บีวายดีมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับเทสลา หรือเรียกว่าเทสลาแห่งเมืองจีน อย่างไรก็ตาม บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้งสองรายมีความต่างกัน เช่น เทสลา ใช้รูปแบบการขายตรงผ่านออนไลน์ ส่วน บีวายดี อาศัยเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่เพื่อการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศและในตลาดภายในประเทศ