ฝ่ายบริหารของ ไบเดนประกาศเมื่อวันอังคาร (14 พ.ค.) ว่า จะปรับปรุงภาษีนำเข้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าที่นำเข้าจากจีนในปี 2024 ในอัตราภาษี 100 % หรือเพิ่มขึ้น 4 เท่าจาก 25 %ในปัจจุบัน นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า(EV) แล้ว สหรัฐยังเพิ่มภาษีศุลกากร ในผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียมของจีน ลิเธียม อีกด้วย แบตเตอรี่ไอออน และโซลาร์เซลล์ “ในอดีตจีนเคยใช้แนวทางเดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ของตนเอง ก่อนพัฒนาการผลิต และลงทุน จนมีกำลังการผลิตที่มากเกินไป ทำให้รถท่วมตลาดโลกและราคารถส่งออกรถของจีนถูกประเมินว่าต่ำเกินจริง ”
ไบเดนหยิบแผนทรัมป์เผชิญหน้าปักกิ่ง
ในขณะที่ รอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันอังคาร (14 พ.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เปิดเผยถึงการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมาก รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ชิปคอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับปักกิ่ง ในขณะที่เขาโน้มน้าวใจชาวอเมริกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ลงคะแนนนโยบายเศรษฐกิจของเขา
“คนงานชาวอเมริกันสามารถทำงานหนักและแข่งขันกับใครก็ได้ ตราบใดที่การแข่งขันนั้นยุติธรรม แต่เป็นเวลานานเกินไปแล้วที่มันไม่ยุติธรรม” ไบเดนกล่าวระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ ที่ทำเนียบขาวต่อหน้าสหภาพแรงงานและบริษัทต่างๆ “เราจะไม่ปล่อยให้จีนท่วมตลาดของเรา”
ไบเดน จัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำพรรครีพับลิกัน เคยประกาศไว้ ว่าหากเขาเข้ามาเป็นประธานาธิบดีจะเรียกเก็บภาษีซึ่งรวมถึงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 4 เท่าเป็นมากกว่า 100% และเพิ่มภาษีศุลกากรเป็น 2 เท่า
รถEV จีนยังไม่มีขายในอเมริกา
"มาตรการใหม่ส่งผลกระทบต่อสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า18,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเหล็กและอลูมิเนียม เซมิคอนดักเตอร์ ยานพาหนะไฟฟ้า แร่ธาตุที่สำคัญ เซลล์แสงอาทิตย์ ทำเนียบขาวกล่าว ตัวเลข EV ที่เป็นประเด็นนพาดหัวข่าว อาจมีผลกระทบทางการเมืองมากกว่าผลกระทบเชิงปฏิบัติในสหรัฐอเมริกา เพราะการนำเข้ารถ EVจากจีนมีน้อยมาก
ในขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่า ความขัดแย้งทางการค้าอาจทำให้ต้นทุนสำหรับ EV โดยรวมสูงขึ้น ส่งผลเสียต่อเป้าหมายด้านสภาพอากาศของไบเดน และเป้าหมายของเขาในการสร้างงานด้านการผลิต
รายละเอียดกฏหมายมาตรา 301
สำหรับภาษีที่จะเพิ่มในปีนี้ ตามภายใต้มาตรา 301 ของพระราชบัญญัติการค้าปี 1974 โดยรถEVจาก 25% เป็น 100% ทำให้ภาษีรวมเป็น 102.5% สำหรับลิเธียม- แบตเตอรี่ไอออน EV และชิ้นส่วนแบตเตอรี่อื่นๆจาก 7.5% เป็น 25% และเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใช้ทำแผงโซลาร์เซลล์จากเก็บ 25%เป็น 50% สำหรับ แร่ธาตุสำคัญบางชนิดจะมีการขึ้นภาษีจากเดิมเก็บ 0% เป็น 25% ภาษีศุลกากรสำหรับเครนระหว่างเรือ-ฝั่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากอัตรา 0% อัตราภาษีศุลกากรสำหรับเข็มฉีดยาและเข็มจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จาก 0% และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) บางส่วนที่ใช้ในสถานพยาบาลจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% จาก 0%ขั้นตอนที่ไบเดนประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะขึ้นภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียม บางชนิด จะมีผลใช้บังคับในปีนี้ ทำเนียบขาวกล่าว
การตัดสินใจของไบเดนได้รับการยกย่องจากผู้นำแรงงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครต กลุ่มอุตสาหกรรมบางกลุ่ม และแม้กระทั่งนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในขณะที่คณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกันตำหนิ โดยบอก ว่าไบเดนไม่ได้แข็งแกร่งพอกับจีน สหพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติ ที่มีสมาชิกทำการค้าขายกับจีน เรียกร้องให้ไบเดนยกเลิกมาตรการและยกเลิกภาษี ในขณะที่ผู้บริโภคยังคงต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
จีนจ่อส่งรถผ่านUSMCA
วันเดียวกับที่ ไบเดนประกาศอัตราภาษีใหม่ บริษัท BYD ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าไฮบริด “SHARK ” ในเม็กซิโก และเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา บีวายดีเปิดเผยว่า กำลังมองหาที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่ในเม็กซิโก ภายใต้ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ปี 2020 รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในเม็กซิโกและใช้ชิ้นส่วนที่นำมาจากอเมริกาเหนือ ที่เพียงพอ มีสิทธิ์ส่งรถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ โดยปลอดภาษี
ชื้สหรัฐกระทบหากไม่ปรับตัว
ด้านเสียงสะท้อนจากฝั่งจีนมีรานงานว่า รถยนต์ไฟฟ้าของจีนมีสัดส่วนถึง 60% ของยอดขายทั่วโลก ตามรายงาน ของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศแต่มียอดขายในจีนเพียงเล็กน้อย หลัก 100 คันอย่างไรก็ตามในระยะยาว สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสหรัฐที่ตั้งกำแพงภาษีคือสหรัฐจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เท่ากับเป็นการฆ่าอุตสาหกรรมของตัวเองในระยะยาว "อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ มีแต่ความล้าสมัย หากไมพัฒนาเทคโนโลยีให้กว้างหน้ากว่านี้ก็ ไม่สามารถแข่งขันได้ และผู้บริโภคของสหรัฐเองก็จะใช้รถยนต์ราคาแพง"