ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของ ค่ายรถยนต์ GAC AION ในการดำเนินกลยุทธ์ระดับโลก โดย GAC AION เตรียม เปิด โรงงาน Thailand Intelligent Eco-factory ซึ่งเป็นการลงทุนในโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศที่ประเทศไทย โรงงานดังกล่าว ใกล้จะแล้วเสร็จและจะเริ่มดำเนินการผลิต(เฟดแรก)ในเร็วๆ นี้ โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ก.ค.2567 สำหรับ แผนการผลิตนั้น GAC AION จะนำโมเดลเชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นแรก หรือ AION V เจนเนอเรชั่น 2 ก็จะเริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงานแห่งนี้ร่วมกับ Aion Y Plus พวงมาลัยขวา ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 มกราคม2567 ที่ผ่านมา GAC Aion ได้ประกาศเริ่มการก่อสร้างโครงการโรงงานในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมระยอง จังหวัดระยองด้วยเงินลงทุนรวม 2,300 ล้านบาท (64.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิต จำนวน 50,000 คันต่อปี
AION V เจนเนเรชันที่ 2 ขับเคลื่อนบนแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน AEP Pure Electric Digital Platform ใหม่ที่ GAC พัฒนาขึ้นด้วยตัวเอง เป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ All in one ที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวเต็มรูปแบบตัวแรกในอุตสาหกรรม ช่วยลดการใช้พื้นที่ของระบบขับเคลื่อนและเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารได้ 20% AION V ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tyrannosaurus Rex และไดโนเสาร์ ที่ผสมผสานความแข็งแกร่ง เทคโนโลยี และอารมร์ความรู้สึกเข้าด้วยกันภายในเบาะนั่งด้านหน้า สามารถกดปุ่มปรับเบาะให้ราบเหมือนเตียงขนาด 2 เมตร มีตู้เย็นขนาดเล็ก ระบบเสียงมาพร้อมลำโพง 9 ตัว มีระบบผู้ช่วยส่วนตัว ADiGO Sense AI ที่รองรับความต้องการ เรียนรู้พัฒนา และสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้โดยสาร รวมถึงมีระบบเกี่ยวกับการศึกษา iFlytek สำหรับผู้โดยสารวัยเรียน รองรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก V2LAION V เจเนอเรชันที่ 2 มีระยะทางการขับขี่สูงสุดที่ 750 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
แบตเตอรี่ แบบแม็กกาซีนแบตเตอรี่ 2.0 หนึ่งในเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของAION รองรับอุณหภูมิที่สูงโดยสามารถทำงานได้ในสภาพอากาศระหว่าง -30°C ถึง 55°C และแพลตฟอร์มการชาร์จ 400V เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น 60% โดยชาร์จ 15 นาทีได้ระยะทาง 370 กม.
นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนปี 2566 GAC AION ก็ได้ขยายฐาน ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 GAC AION ได้ประกาศถึงก้าวสำคัญในการผลิตในประเทศไทยด้วยการลงนามข้อตกลงการสร้างโรงงานในเขตปลอดอากร 185 แห่ง เมื่อเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมาบริษัท GAC Energy Technology (Thailand) Co., Ltd. ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ บริษัทดังกล่าวจะทำธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานใหม่ รวมถึงการดำเนินงานสถานีชาร์จ การนำเข้าและส่งออกเสาชาร์จ ผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานและโฟโตวอลตาอิค และบริการติดตั้งเสาชาร์จสำหรับบ้าน
ล่าสุด GAC AION ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Thailand Charging Consortium อย่างเป็นทางการ พันธมิตรTCCนี้อยู่ภายใต้สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ( " EVAT " ) โดยมีผู้ประกอบการสถานีชาร์จ 18 รายทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายการเติมพลังงานที่มีประสิทธิภาพและส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทยตามแผนงานของ GAC AION ตั้งเป้าที่จะจัดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 25 แห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลภายในปี 2024 และมีแผนที่จะสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จ 200 แห่งพร้อมจุดชาร์จซูเปอร์ชาร์จ 1,000 จุดใน 100 เมืองทั่วประเทศไทยภายในปี 2028
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ไฟฟ้า ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังภายในปี 2035 อย่างไรก็ตามด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของยอดขายและการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ในประเทศไทย ปัญหาต่างๆ เช่น สถานีชาร์จไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพการเติมพลังงานต่ำ และผังเครือข่ายสถานีชาร์จที่ไม่สมเหตุสมผลก็เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
และในส่วนของตลาดองค์กร การจัดซื้อขนาดใหญ่ GAC AION มีความคืบหน้าในการทำตลาดเป็นอย่างมากโดย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ประเทศไทย ได้จัดพิธีส่งมอบรถแท็กซี่ AION ES จำนวน 200 คัน (ล็อตแรกจำนวน 50 คัน) ต่อจากการส่งมอบรถแท็กซี่ AION ES จำนวน 500 คันให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการเปลี่ยนรถแท็กซี่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1,000 คันในพื้นที่ของ ท่าอากาศยานภายในสิ้นปีนี้
GAC Aion กำลังเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับโลก โดยมีประเทศไทยเป็นตลาดหลักและเริ่มต้นในความพยายามนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะกระชับการมีส่วนร่วมในประเทศไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และขยายการเข้าถึงไปยังตลาดอาเซียน และค่อย ๆ บรรลุการผลิต การขาย และการบริการในท้องถิ่น