ขบวนการ POWER RANGERS ที่เราชอบดูตอนเด็กๆ เราจะจำกันได้ดีว่า แต่ละสีมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันชัดเจน มียานพาหนะ มีหุ่นยนต์ มีท่าทางที่แตกต่างกัน แต่อยู่ในทีมเดียวกัน และก็จะมีตัวละครพิเศษออกมาสมทบตามจังหวะต่างๆ แต่ก็ต้องเป็นที่จดจำของคนดู FORD RANGER ในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เช่นเดียวกัน แต่ละรุ่นมีความชัดเจน การตลาดตกผลึกว่าจะต้องทำรุ่นอะไรออกมาบ้าง ในอดีตรถกระบะอาจจะทำรุ่นพิเศษออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดตามจังหวะ และมักไม่มี DNA ต่อยอดอะไรมากนัก นอกจากเอาแนวคิดมาขายลูกค้าให้รถโดดเด่นขึ้น แต่ FORD ตกผลึกทางความคิดก่อนใคร ด้วยการเริ่มพัฒนารุ่น WILDTRAK ในช่วงตัวถังรหัส T5 และมันก็มาประสบความสำเร็จในยุคของ T6
ทั้งคู่แข่งเจ้าตลาด และไม่ใช่เจ้าตลาดตั้งตัวไม่ทัน ทั้งที่ตัวเองเคยทำกระบะรุ่นที่โดดเด่นและพิเศษมามากมาย แต่มาตกม้าตายที่โดนฟอร์ดปาดหน้าสร้างความสำเร็จเป็นที่จดจำของกลุ่มลูกค้ามากกว่า จนค่ายต่างๆต้องกลายเป็นผู้ตามแม้ยอดขายจะเป็นผู้นำ จริงๆแล้วกระบะฟอร์ด ไม่ใช่แค่ขับสบาย แต่สิ่งที่ทำให้ฟอร์ดประสบความสำเร็จมากขึ้นในไทยและภูมิภาคอาเซียน คือแนวคิดทางการตลาดที่ตีโจทย์ไปพร้อมกับสร้างจุดเด่นให้ผลิตภัณฑ์ มีการว่างโปรดักส์ในแต่ละตลาดชัดเจน และมีการแบ่งรุ่นย่อยออกเป็นรุ่นหลักที่มีเอกลักษณ์ให้แตกต่างกัน เอาจริงๆค่ายอื่นก็ทำ แต่ฟอร์ดทำตั้งแต่ก่อนทำรถเจนฯใหม่ (New Generation) มันส่งผลให้การตกแต่งตัวรถในแต่ละเกรดมันความชัดเจน เนื้องานดี ไม่ใช่เหมือนเอาอะไรมาแปะมาประกบแล้วบอกว่านี่คือรุ่นใหม่ การตกแต่งตัวรถของฟอร์ดในแต่ละเกรดจึงมีความโดดเด่นชัดเจน ลูกค้าจดจำ แยกแยะได้ ส่วนที่เป็นอุปกรณ์ใช้งานก็ถูกคิด และใช้งานได้อย่างมีเหตุผล เหมาะสม และสร้างมูลค้าให้กับตัวรถ ถ้าจะให้พูดแบบเห็นภาพชัด คุณก็ลองมองดูสปอร์ตบาร์ที่กระบะของ Ranger Wildtrak ลองดู upfitter switches ใน Ranger FX4 MAX, Ranger RAPTOR หรือแม้แต่บันไดข้างที่กระบะใน Ranger XLT มันเห็นชัดว่าการตกแต่งอุปกรณ์ต่างๆมันลงตัว คนเห็นแล้วจดจำ สร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้ เมื่อตัวรถมีจุดเด่นให้พูดถึง การประชาสัมพันธ์มันก็ง่ายตามไปด้วย
NEXT GEN RANGER รหัส T6.3 คือการสร้าง DNA ในแต่ละรุ่นย่อยให้ชัดเจนมากขึ้น และรู้สึกว่ามันจะไม่จบแค่นี้ (จำ key message นี้ไว้ครับ) เราได้เห็น RANGER PLATINAM ในออสเตรเลีย ที่เหนือขึ้นไปว่า RANGER WILDTRAK ชัดว่าครั้งนี้ ฟอร์ดวางไลน์โปรดักส์ชัดเจนขึ้น และมีการวางแผนไปอีกสเต็ป เป็นแผนก่อนที่ NEXTGEN จะเปิดตัว ฉะนั้นหมายความว่า ตลอดอายุตลาดของปิ๊กอัพรุ่นปัจจุบันของฟอร์ด ฟอร์ดน่าจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั่วโลกได้แถบทุกปี โดย RANGER หรือแม้แต่ EVEREST เวอร์ชั่นต่างๆจะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่ฟอร์ดวางไว้
สมรรถนะการขับขี่ อาการตัวรถ ระบบความปลอดภัย ตลอดจนการดีไซน์ และผลลัพธ์ที่คนพูดถึงรถฟอร์ด ทำให้คู่แข่งต้องปรับตัว วาง FORD RANGER เป็นโมเดลเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าตลาด TOYOTA HILUX แม้ไทยจะยอดขายห่างกัน แต่ก็ขับเขี้ยวกันในหลายประเทศ ISUZU D-MAX เองก็ใส่ระบบความปลอดภัยมามากขึ้น และวางตำแหน่ง V-Cross หรือ X-Terrain ชน Wildtrak ทางด้าน MITSUBISHI TRITON กับ NISSAN NAVARA ก็มี ATHLETE กับ PRO-4X ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า FORD RANGER คือโมเดลที่คู่แข่งจำเป็นต้องศึกษาเพื่อนำมาพัฒนารถของตัวเอง เพราะแม้ทุกค่ายจะมีจุดเด่นบางอย่างที่ฟอร์ดไม่มี แต่ทุกค่ายก็นิ่งนอนใจไม่ได้ ฟอร์ดเองยังคงมีปัญหาใหญ่คือความทนทานของการใช้งาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ฟอร์ดต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อไป มันก็น่าคิดครับ ถ้าทำได้อะไรจะเกิดขึ้น ฝั่งญี่ปุ่นเองก็มีจุดเด่นเรื่องความชัวร์ของโปรดักส์ ฉะนั้นถ้าจะบอกค่ายคู่แข่งของฟอร์ดทุกค่ายว่า เครื่องเกียร์นิ่งกว่าเขา ระบบนิ่งกว่าเขา การทำรถแข่งกับเขาเรื่องอื่นไม่หน้าเป็นปัญหาใหญ่ นอกเสียจากปัญหาที่ว่า มันคือเรื่องกำไรกับต้นทุน
บทความโดย ตระกูล ลินทมิตร