TH / EN

NISSAN unveils three new models for the Japanese market at the Japan Mobility Show 2025

30 October 2025

เผยโฉมฮอนด้า ซีโร่ อัลฟ่า เจาะญี่ปุ่น อินเดีย ปี70

29 October 2025

เปิดหน้า FJ ตัวจริง เวทีJMS2025 ก่อนแถลงในไทย 10 พ.ย.นี้

29 October 2025

นิสสันชงสูตรแกร่ง! เปิดตัว Elgrand-Patrol-Ariya รุ่นใหม่ ฟื้นตลาดญี่ปุ่น

29 October 2025

มาสด้าโชว์วิสัยทัศน์อนาคต ส่งรถ "VISION X-COUPE" และ "X-COMPACT" อวดโฉมเวทีJMS2025

29 October 2025

From Home Appliances to Automobiles: SHARP LDK+ – SHARP’s First Electric Vehicle Concept

28 October 2025

BYD เจาะหัวใจญี่ปุ่น เปิดตัว K-Carลุยตลาด

27 October 2025

ไฮไลต์ตระการตาJapan Mobility Show 2025: เวทีที่สุดนวัตกรรมยานยนต์จากแดนปลาดิบ

27 October 2025

Everything We Know About the New TOYOTA HILUX 2026

25 October 2025

New Hilux BEV offers a 300 km range with dual motors and full-time 4WD.

25 October 2025

BYD Sealion 6 Pickup Version? BYD Files Patent for Compact Monocoque Pickup Truck

24 October 2025

CHANGAN เตรียมเปิดตัวรถใหม่อีก 7 โมเดล นำร่องก่อน 3 รุ่น

24 October 2025

No Data Found

Back To Page Car

ไฮไลต์ตระการตาJapan Mobility Show 2025: เวทีที่สุดนวัตกรรมยานยนต์จากแดนปลาดิบ

27 October 2025| Number Of Visitors 190

ไฮไลต์เด่น Japan Mobility Show 2025: นวัตกรรมยานยนต์จากค่ายชั้นนำ


Japan Mobility Show 2025 หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่าโตเกียวมอเตอร์โชว์( Tokyo Motor Show) กำลังจะเริ่มงานแสดงอีกครั้ง ณ ศูนย์แสดงสินค้าโตเกียว บิกซ์ ไซท์(Tokyo Big Sight)โดยรอบสื่อมวลชนเริ่ม วันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2568 และรอบบุคคลทั่วไป วันที่ 31 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้คอนเซ็ปงานว่า Let’s go explore an exciting future!" งานนี้ไม่ใช่แค่การแสดงรถยนต์ แต่เป็นเทศกาลของยานยนต์ และการขับเคลื่อนที่ ซึ่งรวมเทคโนโลยี การออกแบบที่สร้างสรรค์ และโซลูชันที่ล้ำสมัยเข้าด้วยกัน ปีนี้มีแบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่น ในฐานะเจ้าภาพและรถยนต์จากทั่วโลกมาร่วมนำเสนอไฮไลต์ที่น่าตื่นเต้นแน่นอนว่า ความสนใจยังคงมุ่งไปที่ กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า(EV) รถไฮบริด และเทคโนโลยีลดการป่อนมลพิษ Massautocarนำท่านสำรวจ รถเด่นจากค่ายรถยนต์สำคัญที่เข้าร่วมงาน


Toyota: เปิดโลกไฟฟ้าด้วยคอนเซ็ปต์ล้ำสมัย

โตโยต้า (Toyota) ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และของโลกยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ปีนี้ไฮไลต์หลักอยู่ที่ โคโรลล่าไฟฟ้า ( Electric Corolla Concept) เป็นการเผยโฉมเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนเป็นครั้งแรก ปกตินั้นโตโยต้าจะออกแบบ รถเฉพาะไฟฟ้า มาครั้งนี้จับเอา รถรุ่นขายดี มาพัฒนาเป็นไฟฟ้า เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีรถ Century Coupe Concept เป็นการแปลงร่างรถซีดานหรูหราอย่าง Century ให้กลายเป็นคูเป้ 2 ประตูแบบแกรนด์ทัวริ่งซึ่งน่าจะมีการทำเป็นโปรดักชั่นคาร์ในเร็วๆ นี้ นอกจากรถคอนเซ็ปแล้ว Toyota ยังจะเปิดตัวรถพร้อมทำตลาดในปี 2027 อย่างเช่น แลนด์ ครูสเซอร์ FJ ใหม่ ที่กำลังร้อนแรงในโลกออนไลน์แม้ว่าการผลิตจริงจะยังมาไม่ถึงแต่ดูเหมือนมีคนรอจองกันแล้วจำนวนมาก


ด้านเล็กซัส(Lexus) ซึ่งเป็นแบรนด์หรูในเครือ เล็กซัสนำเสนอธีม "Pushing the Boundaries of the Electrified Experience" ด้วยคอนเซ็ปต์ BEV รุ่นใหม่ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่ไฟฟ้าที่เหนือชั้น โดยได้ปล่อยทีเซอร์ก่อนงาน ในรุ่น มินิแวนอย่าง LS Concept โดยระบุว่า LS คอนเซ็ปต์จะไม่ใช่ซีดานแบบเดิม แต่เป็น “มินิแวน / MPV” ขับเคลื่อนล้อ 6 ล้อ (สองล้อหน้า + สี่ล้อหลัง) ใช้ชื่อ LS แต่มีความหมายใหม่ว่า “Luxury Space” มากกว่า “Luxury Sedan” และเป็นรถไฟฟ้าเบาะนั่ง 3 แถว (6 ที่นั่ง)

 

 

Nissan: อนาคตอัจฉริยะกับรถรุ่นใหม่และเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต
Nissan มาพร้อมธีม "Intelligent Future" โดยนำเสนอวิสัยทัศน์ภายใต้กลยุทธ์ Re:Nissan ที่มุ่งฟื้นฟูไลน์อัพด้วยรุ่นล้ำสมัย ไฮไลต์เด่นคือ All-New Elgrand เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งเป็นมินิแวนหรูหราที่ผสานดีไซน์ใหม่กับเทคโนโลยีไฮบริด ต่อด้วย Next-Generation Leaf รถ EV ยอดนิยมรุ่นใหม่จะมาในเจน 3 ซึ่งยกระดับการขับขี่และระยะทางวิ่งให้ดีขึ้น ขณะที่ Ariya รถครอสโอเวอร์ EV จะได้รับการอัปเดต(Facelifted) ด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และฟีเจอร์การขับขี่ สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต Nissan จะโชว์รถ Formula E ที่ชนะแชมป์ฤดูกาล 2024/2025 นิสสันยังเน้น เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติและโซลูชันยั่งยืน บูธของ Nissan ออกแบบในสไตล์มังงะ โดยสร้างเมืองจำลองขนาดเท่าจริงเพื่อให้ผู้ชมสัมผัสประสบการณ์แบบ immersive ทำให้งานนี้ไม่ใช่แค่ดูรถ แต่เป็นการมีส่วนร่วมกับอนาคต

 


Honda: จากพื้นดินสู่อวกาศ ด้วยโซลูชัน mobility ครบวงจร
ฮอนด้า(Honda) หลายปีที่ผ่านได้พยายามนำเสนอตัวเองในฐานะบริษัท mobility ครบวงจร คือ ขยายขอบเขตโดยครอบคลุมทั้ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) อากาศยาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ

รถยนต์ต้นแบบ(Prototype)รุ่นใหม่ภายใต้ Honda 0 Series (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงรถต้นแบบ SUV รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไลน์อัป Honda 0 Series เป็นครั้งแรกในโลก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสถึงคุณค่าของ Honda 0 Series ได้มากยิ่งขึ้น

■ รถยนต์ต้นแบบ Compact EV (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ(Prototype) Compact EV ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “Fun of driving” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า โดยผสานการใช้งานที่ดีเยี่ยมเข้ากับ “ความสุขในการขับขี่” หรือ “Joy of driving” ได้อย่างลงตัว โดยรถต้นแบบรุ่นนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณความสนุกสนานของฮอนด้า ที่พร้อมสร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้แก่ลูกค้า ปัจจุบัน รถต้นแบบรุ่นนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบจริงในหลายประเทศที่มีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาด Compact สูง เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และประเทศในเอเชีย เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้จะเป็นรถที่สามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน ตามความมุ่งมั่นของฮอนด้า

■ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบConcept Model (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ฮอนด้าเตรียมเผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดใหม่ ที่ท้าทายและก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิม ๆ เพื่อส่งมอบ ความตื่นเต้น และประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้า

■ รถจักรยานไฟฟ้าต้นแบบ Honda e-MTB (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)
ต่อเนื่องจากการจัดแสดงรถจักรยานคอนเซปต์ในปี 2563 ครั้งนี้ ฮอนด้าเตรียมเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลก กับHonda e-MTB รถจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นรุ่นที่วางแผนจะผลิตจริง มาพร้อมฟังก์ชันช่วยขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Ride Natural, Reach New Peaks” เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ สู่จุดหมายใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น


■ Sustainable Rocket
ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงโมเดลต้นแบบของ Sustainable Rocket ซึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบปล่อยและลงจอด ณ เมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยจรวดรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาภายใต้เป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนสู่ สังคมเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutral society) ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่สามารถนำจรวดกลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงแบบหมุนเวียนได้ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของฮอนด้าในการขยายขอบเขตจากพื้นโลกไปสู่ห้วงอวกาศ

รุ่นผลิตจริง
All-new Honda Prelude
(รุ่นผลิตจริง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2568)
Honda Prelude ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฮบริดเฉพาะของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น โดย Honda Prelude ใหม่ เปรียบเสมือนเป็น “บทนำ” (Prelude) สำหรับรถสปอร์ตเฉพาะทางระดับพรีเมียมจากฮอนด้าในอนาคต พร้อมส่งต่อแนวคิด “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “joy of driving” สู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว


■ N-ONE e:
(รุ่นผลิตจริง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2568)
N-ONE e: ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจาก Honda N360 ซึ่งเป็นรุ่นต้นกำเนิดรถยนต์นั่งฮอนด้า โดยคงไว้ซึ่งดีไซน์ภายนอกที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง และความคล่องตัวในการขับขี่ N-ONE e: มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและเงียบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ EV โดยฮอนด้ามุ่งมั่นสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กนี้ให้เป็น "Standard EV" ที่ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นในวงกว้าง

CB1000F/CB1000F SE (รุ่นวางแผนผลิตจริง)
ฮอนด้าเตรียมจัดแสดง CB1000F ใหม่ และ CB1000F SE ใหม่ ในฐานะสมาชิกใหม่ในไลน์อัปของ CB Series ซึ่งเป็นแบรนด์ของรถจักรยานยนต์ Road Sports จากฮอนด้า โดย CB1000F ใหม่ จะถ่ายทอดจิตวิญญาณมาตรฐานสปอร์ตไบค์ที่ก้าวล้ำอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ CB1000F SE จะสะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบสุดคลาสสิกของ CB1000F ไว้อย่างโดดเด่น

ในส่วนของจักรยานยนต์อื่นๆ ที่จัดแสดงเช่น Rebel 1100 S Edition (DCT) ฮอนด้า Rebel 250 S Edition E-Clutch ฮอนด้า CRF 1100L Africa Twin Adventure Sports ES (DCT)
ฮอนด้า CT125 Hunter Cubและฮอนด้า DAX 125

 

 

 

Subaru: ประสิทธิภาพและการผจญภัยในยุคไฟฟ้า
Subaru เน้นสองธีมหลักคือประสิทธิภาพและการผจญภัย โดยนำเสนอ STI Performance-E Concept รถ EV สปอร์ตที่หัวใจหลักคือสมรรถนะสูง ขณะที่ STI Performance-B Concept ยังคงใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์แบบดั้งเดิมเพื่อรักษาเอกลักษณ์ Trailseeker EV เป็นรถ EV สำหรับการผจญภัยนอกทาง และ Wilderness Prototype สำหรับ Forester และ Outback ซึ่งเป็นเวอร์ชันออฟโรดที่ทดสอบตลาดโลก โดยเพิ่มความแข็งแกร่งและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้ ยังมี 1983 Subaru GL Family Huckster รถแวกอนสมรรถนะสูงกว่า 800 แรงม้า เพื่อย้อนรำลึกมรดก Subaru กำลังขยายไลน์ Wilderness สู่ตลาดโลก ซึ่งอาจหมายถึงการมาของรุ่นออฟโรดเพิ่มเติมในอนาคต

 

Mazda: ความสุขในการขับขี่ที่ยั่งยืน

Mazda มาพร้อมธีม "The joy of driving fuels a sustainable tomorrow" เปิดตัวรถคอนเซ็ป คาร์แบะรถใหม่หลายรุ่น

Vision Model: คอนเซ็ปต์ใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกของโลกในงานนี้ เป็นรถ 4 ประตูสไตล์แฟสต์แบ็ค (fastback) ที่ดูคล้ายซีดานแต่มีความเป็นครอสโอเวอร์ ดีไซน์เพรียวบาง หลังคาลาดเอียง หน้าต่างไร้กรอบ ประตู และพื้นผิวเรียบเนียน พร้อมไหล่รถที่โค้งมนสวยงาม.
ภายในมี headrests แบบ futuristic และกล้องแทนกระจกมองข้าง สะท้อนธีมความยั่งยืนโดยอาจใช้ระบบขับเคลื่อนสะอาด เช่น ไฟฟ้า ไฮบริด หรือเชื้อเพลิงทางเลือก เพื่อเป็นต้นแบบรถในอนาคตของมาสด้า.Mazda ยังคงยึดมั่นในปรัชญา "Jinba Ittai" หรือความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ ทำให้ไฮไลต์เหล่านี้ไม่เพียงล้ำสมัยแต่ยังมอบความสนุกในการขับขี่


All-New CX-5: รถ SUV รุ่นใหม่ที่เปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรก (เวอร์ชันยุโรป) โดยเป็นรถโปรดักชันที่จะวางตลาดในอนาคต เน้นการอัปเดตดีไซน์และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนและความสนุกในการขับขี่.จัดแสดงสาธารณะเป็นครั้งแรก
CX-30 SeDV (Self-empowerment Driving Vehicle): รถพิเศษสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยจัดแสดงในส่วน Tokyo Future Tour 2035 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์รถที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน.

Spirit Racing RS Future Concept: คอนเซ็ปต์รถสปอร์ตที่เน้นสมรรถนะสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง สะท้อนจิตวิญญาณการแข่งขันของมาสด้า.

RX-7 (Classic Model): รถสปอร์ตโรตารี่รุ่นคลาสสิกที่นำมาจัดแสดงเพื่อย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์การขับขี่ที่สนุกสนานของมาสด้า.

CX-60 และ CX-80: รถ SUV โปรดักชันรุ่นปัจจุบันที่นำมาจัดแสดงเพื่อเน้นไลน์อัปหลัก โดยอาจรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน.

..........................................

Suzuki: ใกล้ชิดผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีเพื่อชีวิตประจำวัน
Suzuki ใช้ธีม "By Your Side" เพื่อนำเสนอรถที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ซูซูกิ (Suzuki) ซูซูกิได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นเวอร์ชันโปรดักชัน (production) หรือใกล้เคียงการวางตลาดในอนาคต โดยเน้นรถยนต์ไฟฟ้าและยานพาหนะขนาดกะทัดรัดสำหรับตลาดญี่ปุ่นและทั่วโลก
e Vitara: รถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นใหม่ (BEV) ที่เป็นโปรดักชันแล้ว โดยผลิตที่โรงงานในอินเดียและวางขายในญี่ปุ่นและตลาดอื่นๆ ในช่วงปลายปี 2025 เน้นการขับขี่แบบ 4x4 และระยะทางไกล เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและนอกเมือง มีแผนขยายตลาดทั่วโลกเพื่อสนับสนุนคาร์บอน neutrality.

Vision e-Sky: มินิ BEV รถแฮทช์แบ็คไฟฟ้าขนาดเล็ก (kei car EV) สำหรับการใช้งานในเมือง ขนาดยาว 3.395 ม. กว้าง 1.475 ม. สูง 1.625 ม. ให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 270 กม. (WLTP) และกำลังมอเตอร์ 64 แรงม้า แผนผลิตและวางตลาดญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม 2027


X-Bee (facelift): รถครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นอัปเดต โดยปรับปรุงดีไซน์และเทคโนโลยีเพื่อวางตลาดในญี่ปุ่นและเอเชีย เน้นความอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก.
Jimny Nomade: รถ SUV ออฟโรดขนาดเล็กเวอร์ชัน 5 ที่นั่งรุ่นใหม่ โดยพัฒนาจาก Jimny รุ่นมาตรฐาน มีแผนวางตลาดในญี่ปุ่นและตลาดที่ต้องการรถออฟโรดขนาดกะทัดรัด เน้นความทนทานและการขับขี่นอกถนน.
Spacia: รถ MPV ขนาดเล็ก (kei car) รุ่นอัปเดตโดยปรับปรุงพื้นที่ภายในและประสิทธิภาพเชื้อเพลิง วางขายในญี่ปุ่นและมีแผนขยายสู่ตลาดอื่นๆ สำหรับครอบครัวในเมือง.

นอกจากนี้ ยังมี Fronx FFV Concept ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์แบบ flexible fuel (รองรับเอทานอล E85) ที่ใกล้เข้าสู่โปรดักชันสำหรับตลาดอินเดียและเอเชีย โดยแสดงเพื่อเน้นทางเลือกเชื้อเพลิงชีวภาพ
........................
ไฮไลต์คือ Vision e-Sky
นอกจากนี้ ยังมี MOQBA 2 รถจักรยานยนต์ 4 ล้อ และ e-VanVan มินิไบค์ไฟฟ้า Suzuki ยังนำเสนอหุ่นยนต์และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ mobility ที่ครอบคลุม

 

 

Mitsubishi: การผจญภัยที่ไม่มีวันสิ้นสุด
Mitsubishi มาพร้อมธีม "FOREVER ADVENTURE" โดยนำเสนอ Triton Pickup และ Outlander PHEV ที่เน้นความทนทานสำหรับการผจญภัย Delica Mini และ Delica D:5 สำหรับการใช้งานในเมืองและออฟโรด Surprise Concept Vehicle จะเป็นจุดเด่นที่เปิดเผยดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่ บูธยังมีกิจกรรม互动 เช่น Voice Novel และ Interactive Content เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย
Daihatsu: นวัตกรรมขนาดเล็กที่ใกล้ชิดผู้ใช้
Daihatsu ในฐานะแบรนด์ในเครือ Toyota เน้นย้ำการอยู่ใกล้ชิดลูกค้าด้วยธีม "Staying Close to Our Customers and Enriching Their Lives" ไฮไลต์เด่นคือการคืนชีพรถคลาสสิกอย่าง All-New Electric Midget X ซึ่งเป็นเวอร์ชันไฟฟ้าของ Midget รถขนาดเล็กยอดนิยมในอดีต โดยออกแบบให้เป็นรถ LCV (Light Commercial Vehicle) ที่น่ารักและใช้งานได้จริงในเมือง ร่วมกับคอนเซ็ปต์อื่นๆ ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์เฉพาะตัว Daihatsu ร่วมจัดแสดงในบูธใหญ่ของ Toyota เพื่อนำเสนอรถต้นแบบที่ทำให้ผู้ชมคิดว่า "นี่แหละที่เหมาะกับฉัน" โดยผสานเทคโนโลยี EV เข้ากับดีไซน์ย้อนยุค ทำให้เป็นจุดสนใจสำหรับแฟนรถขนาดเล็ก
BYD: พลังงานใหม่จากจีนสู่ตลาดญี่ปุ่น
BYD ผู้ผลิต EV ชั้นนำจากจีน เข้าร่วมงานเพื่อตอกย้ำการขยายตลาดในญี่ปุ่น โดยนำเสนอไลน์อัพรถพลังงานใหม่ที่หลากหลาย ไฮไลต์หลักคือ BYD K8 รถ EV ขนาดเล็กที่จะวางขายในปี 2569, BYD J7 รถมินิแวนไฟฟ้า และ Sealion 7 รถ SUV EV ที่เน้นสมรรถนะสูง นอกจากนี้ ยังโชว์ Dolphin รถแฮทช์แบ็ก EV ยอดนิยม และ Seal รถซีดานไฟฟ้าที่เน้นดีไซน์สปอร์ต BYD เน้นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้บูธของพวกเขาเป็นตัวแทนของการบุกตลาดญี่ปุ่นด้วยรถ EV ราคาเข้าถึงได้


..........................................
Hyundai: การบุกตลาดด้วย EV ล้ำสมัย
Hyundai จากเกาหลีใต้ ตั้งบูธในฐานะแบรนด์ต่างชาติ เพื่อนำเสนอรถ EV ที่ตอบโจทย์ตลาดญี่ปุ่น ไฮไลต์เด่นคือ New Ioniq 6 รถซีดานไฟฟ้าที่ได้รับการอัปเดตใหม่ โดยเน้นดีไซน์ aerodynamic และระยะทางวิ่งไกลกว่า 600 กม. ร่วมกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูล Ioniq ที่ผสานเทคโนโลยีไฮบริดและ EV Hyundai ยังอาจนำเสนอคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เน้นความยั่งยืน ทำให้เป็นจุดหมายสำหรับผู้ที่สนใจรถไฟฟ้าจากเอเชียที่แข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่นโดยตรง

 


ครั้งนี้ เราขอแนะนำบูธของ Hyundai ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ เจ้าของยอดขายรถยนต์ใหม่ประจำปีสูงสุดเป็นอันดับสามของโลก น่าแปลกใจที่งานนี้เป็นครั้งแรกที่ Hyundai ได้เข้าร่วมงาน Japan Mobility Show นับตั้งแต่กลับมาจัดแสดงที่ญี่ปุ่น Hyundai ได้นำเสนอ "ไลฟ์สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า" อย่างต่อเนื่อง โดยมีรถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง "IONIQ 5" รถยนต์อี-เอสยูวีขนาดกลาง "KONA" และรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด "INSTER" ซึ่งเปิดตัวในปีนี้ Hyundai ได้สร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัย โดยเน้นย้ำถึง "ไลฟ์สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า" ฮุนไดยังประกาศเปิดตัว "IONIQ 5 N" รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่พัฒนาต่อยอดจาก IONIQ 5 และมาพร้อมตัวอักษร "N" ซึ่งเป็นตัวแทนของสายผลิตภัณฑ์สปอร์ตของฮุนได บริษัทยังส่งเสริมตัวเองในฐานะผู้ผลิตที่มุ่งมั่นพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ผ่านการมีส่วนร่วมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตและการจำหน่ายชิ้นส่วนสมรรถนะสูงที่พัฒนาภายใต้การดูแลของเคอิจิ ซึจิยะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "โดริกิน" รถยนต์เหล่านี้จะจัดแสดงที่บูธ และจะมีให้ทดลองขับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการวัฒนธรรมแห่งการเคลื่อนที่" อย่างเป็นทางการของงาน สำหรับการทดลองขับรถยนต์เพื่อความปลอดภัยขั้นสูง (ASV) บนท้องถนนสาธารณะ ฮุนไดยังมุ่งเน้นไปที่รถโดยสารไฟฟ้า และรถโดยสารไฟฟ้าขนาดกลาง "Electricity Town" จะถูกจัดแสดงที่นิทรรศการ "Working Mobility" ณ ลานจอดรถชั่วคราวกลางแจ้งของอาคารฝั่งตะวันออก อย่างไรก็ตาม จุดสนใจหลักของฮุนไดในงาน Japan Mobility Show 2025 คือไฮโดรเจนงาน Japan Mobility Show 2025ใกล้เข้ามาแล้ว ความตื่นเต้นกำลังก่อตัวขึ้นเมื่อบริษัทต่างๆ ประกาศรายละเอียดการจัดแสดง

ฮุนไดได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นเรือธง "IONIQ 5", รถยนต์อี-เอสยูวีขนาดกลาง "KONA" และรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด "INSTER" ที่เปิดตัวในปีนี้ เพื่อส่งเสริม "ไลฟ์สไตล์ยานยนต์ไฟฟ้า" และสร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัย ฮุนไดยังได้ประกาศเปิดตัว "IONIQ 5 N" รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่พัฒนาต่อยอดจาก IONIQ 5 และชื่อ "N" ของรถยนต์สปอร์ตของฮุนได ฮุนไดยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับขี่สมรรถนะสูงผ่านการเข้าร่วมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตและการจำหน่ายอะไหล่สมรรถนะสูงที่พัฒนาภายใต้ การดูแลของ เคอิจิ ซึชิยะหรือที่รู้จักกันในชื่อ "โดริกิน" รถยนต์เหล่านี้จะจัดแสดงในบูธ และยังสามารถทดลองขับได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการวัฒนธรรมแห่งการเคลื่อนที่" อย่างเป็นทางการของงาน ซึ่งเป็นการทดสอบขับขี่รถยนต์เพื่อความปลอดภัยขั้นสูง (ASV) บนท้องถนนสาธารณะ ฮุนไดยังมุ่งเน้นไปที่รถบัสไฟฟ้า โดยรถบัสไฟฟ้าขนาดกลางที่มีชื่อว่า Electcity Town จะถูกจัดแสดงในงาน "Working Mobility" ณ ลานจอดรถชั่วคราวกลางแจ้งของอาคารฝั่งตะวันออก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฮุนไดให้ความสำคัญมากที่สุดในงาน Japan Mobility Show 2025 คือไฮโดรเจน

รถยนต์ไฟฟ้าพลังไฮโดรเจนรุ่นใหม่ของ Nesso โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบที่น่าประทับใจ
 แม้ว่าฮุนไดจะเคยนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน (FCEV) ชื่อ "NEXO" ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนมาก่อน แต่รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน (BEV) ทั้งสี่รุ่นที่กล่าวถึงข้างต้นกลับถูกบดบังรัศมีมาตลอด อย่างไรก็ตาม ฮุนไดได้พัฒนารถยนต์ไฮโดรเจนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และในปี พ.ศ. 2556 ฮุนไดประสบความสำเร็จในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน (FCEV) ที่ผลิตจำนวนมากคันแรกของโลก ทำให้ฮุนไดกลายเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นได้จากการนำเสนอของฝ่ายบริหารของฮุนไดกรุ๊ป รวมถึงฝ่ายยานยนต์ ซึ่งมักมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโครงการริเริ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของไฮโดรเจน งาน Japan Mobility Show 2025 จะเริ่มต้นด้วยการแนะนำประวัติศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนของฮุนได ตามด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์ของสังคมพลังงานไฮโดรเจนที่ฮุนไดได้วางไว้ภายใต้แบรนด์ธุรกิจไฮโดรเจน "HTWO" ซึ่งประกอบด้วยห่วงโซ่คุณค่าสี่ด้าน ได้แก่ การผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ และการใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างสังคมพลังงานไฮโดรเจนที่ยั่งยืน สุดท้ายนี้ "Nesso" รุ่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายน ก็จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นเช่นกัน แม้จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่คล้ายคลึงกับ IONIQ 5 แต่ภายนอกที่ออกแบบด้วยภาษาการออกแบบ "Art of Steel" ใหม่ของฮุนไดก็คุ้มค่าแก่การรับชม นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายในด้านเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมจุดยืนของแบรนด์ ฮุนไดจะจัดกิจกรรมที่หลากหลาย คอนเทนต์เชิงประสบการณ์ และกิจกรรมโพสต์บนโซเชียลมีเดียภายในงาน นอกจากนี้ ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันของวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน เธียร์รี นอยวิลล์ ผู้ชนะการแข่งขัน FIA World Rally Championship ปี 2024 และมาร์ติน วิเดกา ผู้ช่วยนักขับ จะเข้าร่วมงานแจกลายเซ็นพิเศษ บูธของฮุนไดซึ่งตั้งอยู่ในอีสต์ฮอลล์ 6 จะเน้นย้ำถึงธีมหลักๆ ของเทคโนโลยีขั้นสูงของรถยนต์ไฟฟ้า ความสปอร์ตของรถยนต์สมรรถนะสูง และเทคโนโลยีไฮโดรเจนที่จะปูทางไปสู่อนาคตแม้ว่าฮุนไดจะนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) แต่รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน (BEV) ทั้งสี่รุ่นที่กล่าวถึงข้างต้นกลับถูกบดบังรัศมี อย่างไรก็ตาม ฮุนไดได้พัฒนาไฮโดรเจนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และในปี พ.ศ. 2556 ฮุนไดประสบความสำเร็จในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน (FCEV) ที่ผลิตจำนวนมากคันแรกของโลก ทำให้ฮุนไดกลายเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฮโดรเจน เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นได้จากการนำเสนอของฝ่ายบริหารของฮุนไดกรุ๊ป รวมถึงฝ่ายยานยนต์ ซึ่งมักมีประเด็นริเริ่มที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมไฮโดรเจนและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหัวข้อหลักในการพูดคุย แน่นอนว่างาน Japan Mobility Show 2025 จะเริ่มต้นด้วยการแนะนำประวัติศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนของฮุนได ตามด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์ของสังคมไฮโดรเจนที่ฮุนไดวางไว้ภายใต้แบรนด์ธุรกิจไฮโดรเจน "HTWO" ซึ่งประกอบด้วยห่วงโซ่คุณค่าสี่ด้าน ได้แก่ การผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ และการใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างสังคมไฮโดรเจนที่ยั่งยืน สุดท้ายนี้ "Nesso" ใหม่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายน ก็จะเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นในฐานะยานยนต์พลังงานไฮโดรเจนเช่นกัน แม้จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่คล้ายคลึงกับ IONIQ 5 แต่ภายนอกที่ออกแบบด้วยภาษาการออกแบบ "Art of Steel" ใหม่ของฮุนไดก็คุ้มค่าแก่การรับชม นอกจากนี้ยังมีสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจในด้านเทคโนโลยีอีกด้วย เพื่อเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ ฮุนไดจะจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เนื้อหาเชิงประสบการณ์ และกิจกรรมโพสต์บนโซเชียลมีเดียภายในงาน นอกจากนี้ ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันของวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายนเธียร์รี นอยวิลล์ ผู้ ชนะการแข่งขัน FIA World Rally Championship ปี 2024 และมาร์ติน วิเดกา ผู้ช่วยนักขับ จะเข้าร่วมงานแจกลายเซ็นพิเศษ บูธของฮุนไดซึ่งตั้งอยู่ในอีสต์ฮอลล์ 6 จะเน้นย้ำถึงธีมหลักๆ ของเทคโนโลยีขั้นสูงของรถยนต์ไฟฟ้า ความสปอร์ตของรถยนต์สมรรถนะสูง และเทคโนโลยีไฮโดรเจนที่จะปูทางไปสู่อนาคต
......................................................

Mercedes-Benz: หรูหราและนวัตกรรมสำหรับอนาคต
Mercedes-Benz จากเยอรมนี นำเสนอวิสัยทัศน์ luxury mobility ด้วยไฮไลต์หลักคือ Mercedes-Benz Vision V คอนเซ็ปต์แวนที่ผสานความหรูหรากับประสบการณ์ immersive โดยใช้เทคโนโลยี EV และระบบอัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังเปิดตัวรถบรรทุก Mercedes-Benz Actros และ Arocs สำหรับตลาดญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Arocs 4763 8x6 ที่เน้นความทนทานสำหรับงานหนัก Mercedes-Benz เน้นการผสมผสานระหว่าง luxury กับ sustainability ทำให้บูธของพวกเขาเป็นตัวแทนของแบรนด์ยุโรปที่บุกตลาดเอเชีย


Share this article


Related News/Articles

NISSAN unveils three new models for the Japanese market at the Japan Mobility Show 2025

30 October 2025

มาสด้าโชว์วิสัยทัศน์อนาคต ส่งรถ "VISION X-COUPE" และ "X-COMPACT" อวดโฉมเวทีJMS2025

29 October 2025

นิสสันชงสูตรแกร่ง! เปิดตัว Elgrand-Patrol-Ariya รุ่นใหม่ ฟื้นตลาดญี่ปุ่น

29 October 2025

เปิดหน้า FJ ตัวจริง เวทีJMS2025 ก่อนแถลงในไทย 10 พ.ย.นี้

29 October 2025

เผยโฉมฮอนด้า ซีโร่ อัลฟ่า เจาะญี่ปุ่น อินเดีย ปี70

29 October 2025

BYD เจาะหัวใจญี่ปุ่น เปิดตัว K-Carลุยตลาด

27 October 2025

Everything We Know About the New TOYOTA HILUX 2026

25 October 2025

BYD Sealion 6 Pickup Version? BYD Files Patent for Compact Monocoque Pickup Truck

24 October 2025

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ Privacy Policy

Accept