
ความเคลื่อนไหวของเทสลา (Tesla) ในการหั่นราคารถยนต์ในจีนกลับมาดุเดือดอีกครั้งเมื่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของอีลอน มัสก์ (Elon Musk) สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับ BYD ที่สนับสนุนโดยวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนมียอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งต่างประเทศเป็นครั้งแรกในปี 2566 ปีที่แล้วเทสลาได้ลดราคารถยนต์ลงเพื่อเรียกคืนส่วนแบ่งตลาดในจีนที่มีการแข่งขันสูง และเป็นการจุดประกายให้เกิดสงครามราคาในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดที่เป็นที่สนใจของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ของยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ บรรดาผู้บริโภคชาวจีนได้หันมาสนใจรถยนต์ของ BYD ที่ใหม่กว่าและมีราคาถูกกว่า โดยในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้
ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีนี้ ส่วนแบ่งตลาดของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอิน-ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้เพิ่มขึ้นจาก 34% ในปีที่แล้วมาเป็นมากกว่า 40% ขณะที่ยอดขายของ Tesla นั้นลดลงเล็กน้อยเหลือ 7.8%
นาย ลี เทาเทา (Li Taotao) นักวิจัยสาขาวิศวกรรมวัย 26 ปีที่ขอใช้นามสมมติ ได้ซื้อรถยนต์ BYD Qin Plus DM-i ซึ่งเป็นรถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดในราคาเพียง 99,800 หยวน เป็นเงินไทย 499,000 บาทในเดือนกุมภาพันธ์ “ว่ารถยนต์ต่างประเทศนั้นมีราคาแพงเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ในประเทศมีคุณภาพดี ว่าทำไมเราจะไม่เลือกล่ะ” นาย ลี เทาเทา (Li Taotao) กล่าว
การตัดราคาของ Tesla และสงครามราคาที่จะเกิดขึ้นตามมาในบรรดาบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำส่วนใหญ่ในจีน คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่ปักกิ่งได้ลดเงินอุดหนุนจำนวนมากลง หลังจากที่ได้ใช้จ่ายเงินมากกว่า 120 พันล้านดอลลาร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้
ประเทศจีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์โดยทั่วไปลดลงเนื่องจากจีน เพิ่งฟื้นจากการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งได้ชะลออัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศจีน (China Association of Automobile Manufacturers) ได้ออกโรงเตือนว่า ปัจจุบันภาคธุรกิจนี้กำลังเผชิญกับ “จำนวนสินค้าคงคลังที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และ แรงกดดันด้านการดำเนินงาน” โดยมียอดขายดิ่งลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ของต่างประเทศเคยประกาศว่า จีนเป็นตลาดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวลง
ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566 ยอดขายรถยนต์นั่งของบริษัทจีนอ่อนตัวลงประมาณ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มบริษัทรถยนต์ของเยอรมันลดลง 21% บริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่นลดลง40% ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีลดลง 25% และผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ลดลง 13%