Ford Performance และผู้มีความสามารถรอบด้านในวงการแข่งรถออฟโรด ได้ออกแบบและสร้างสรรค์ Ford Raptor T1+ ใหม่ ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งการออกแบบและความสามารถของ Raptor โดยมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันแรลลี่ดาการ์แบบออฟโรดที่โหดหิน Raptor T1+ เปิดตัวที่งาน Goodwood Festival of Speed ปี 2024 เป็นความร่วมมือระหว่าง ค่าย M-Sport ซึ่งเป็นพันธมิตรระยะยาวของ Ford Performance
“การเข้าร่วมการแข่งขันรายการ ดาการ์ เป็นงานท้าทายสำหรับพวกเราทุกคนใน Ford Performance แต่เราก็ไม่เคยหลบเลี่ยงความท้าทายใดๆ” มาร์ก รัชบรู๊ค ผู้อำนวยการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของ Ford Performance กล่าว
เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ ฟอร์ด ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ M-Sport และ Red Bull ซึ่งเป็นบริษัทที่ดีที่สุดในโลก และสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า เราจริงจังกับโครงการนี้มากเพียงใด สำหรับรถแข่ง Ford Raptor T1+ จัดเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับวิสัยทัศน์ด้านออฟโรดระดับโลกของฟอร์ด บทเรียนที่ได้รับจาก Raptor T1+ ควบคู่ไปกับการแข่งขันกับรถรายการ Baja 1000 และ Finke Desert Race ช่วยให้รถ Raptor ดีขึ้นสำหรับลูกค้า” Ford Raptor T1+ ใหม่จะขับโดยทีมนักขับและนักนำทางจำนวน 4 คน ซึ่งได้แก่ นักขับรถแรลลี่ Carlos Sainz Sr. พร้อมด้วยนักนำทาง Lucas Cruz และ Nani Roma พร้อมด้วยนักนำทาง Alex Haro
“การสนับสนุนจาก Ford Performance ในการแข่งขันดาการ์ด้วย Ford Raptor T1+ รุ่นใหม่นี้ เป็นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่” แมตต์ วิลสัน ผู้อำนวยการ M-Sport และผู้จัดการทีมดาการ์กล่าว “เราได้ทดสอบรถไปแล้ว 10,000 กิโลเมตร (6,213 ไมล์) ในสภาพที่เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งดังนั้นเราจึงรู้สึกพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่นี้โดยจะเริ่มแข่งขันที่บาจา ฮังการีในเดือนหน้าคุณสมบัติหลักของ Ford Raptor T1+
ระบบกันสะเทือนขั้นสูง: Ford Raptor T1+ มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่อิสระที่ด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ Fox เจ้าเดิมโดยพัฒนาระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์ ปรับได้ 3 ทาง 4 ระดับพร้อมระบบบายพาสภายนอกที่ปรับได้ ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างเหนือชั้นและคงทนแม้ในสภาวะที่รุนแรง รถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ใช้ล้ออะลูมิเนียมขนาด 8.5 x 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 37 นิ้ว จับคู่กับดิสก์เบรก แบบระบายอากาศ ของAlcon ขนาด 355 มม. ที่ด้านหน้าและด้านหลัง และคาลิปเปอร์โมโนบล็อก 6 ลูกสูบ Ford Raptor T1+ มีระยะยุบตัวของล้อสูงสุด 350 มม.
Ford Raptor T1+ มาพร้อมเครื่องยนต์ วางเป็นรูปตัว V ขนาด 8 สูบ 5.0 ลิตร ให้กำลังและแรงบิด สูงสำหรับการลุยทางขรุขระ ติดตั้งระบบน้ำมันแบบอ่างน้ำมันแห้งที่เป็นเอกลักษณ์ และระบบไอเสียที่ปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโรด โดยเฉพาะ Ford Raptor T1+ มีน้ำหนัก 2,010 กก.
ทางด้านโครงสร้างตัวถังรถคันนี้ประกอบด้วยโครงเหล็ก T45 และแผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ผสมผสานการใช้งานเข้ากับสุนทรียศาสตร์ ของRaptor อันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ 400 มม. ขนาดฐานล้อ และและระยะห่างล้อ มีความกว้าง 2,300 มม. มุมเข้า กระทบมุมจาก มากกว่า 70° ทำให้รถมีด้านหน้ากว้างเพื่อความเสถียรในการขับขี่ออฟโรดที่ดีขึ้น และกระจังหน้าแบบเฉียงพร้อมตัวอักษร FORD ที่ด้านหน้า ให้ทั้งรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและประโยชน์ด้านสมรรถนะ
สำหรับหน่วยงาน Ford Performance เป็นหน่วยงานของบริษัท Ford Motor Company ที่มุ่งเน้นพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถ รวมถึงการสร้างรถยนต์รุ่นพิเศษสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม หน่วยงานนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อรวมกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารถสมรรถนะสูงเช่น Ford SVT (Special Vehicle Team), Team RS, และFord Racing เข้าด้วยกัน
Ford Performance รับผิดชอบในการพัฒนารถรุ่นต่าง ๆ ที่มีสมรรถนะสูง เช่น
- Ford Mustang Shelby GT500 - รถมัสแตงสมรรถนะสูงที่มีเครื่องยนต์ซุปเปอร์ชาร์จ
- Ford GT - ซุปเปอร์คาร์ที่ออกแบบมาสำหรับทั้งถนนและสนามแข่ง
- Ford Focus RS - รถฮอตแฮทช์ที่มีความสามารถในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
- Ford F-150 Raptor - รถกระบะสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพภูมิประเทศ
นอกจากการพัฒนารถรุ่นสมรรถนะสูงแล้ว Ford Performance ยังมีส่วนร่วมในโปรแกรมการแข่งรถต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น NASCAR, World Rally Championship (WRC), และ Le Mans เป็นต้น ซึ่งการเข้าร่วมแข่งรถนี้ช่วยให้ Ford สามารถทดสอบและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะนำมาใช้ในรถยนต์ทั่วไป ส่วนรายการแข่งขัน Dakar Rally ครั้งต่อไปมีกำหนดจัดขึ้น ในวันที่ 4–17 มกราคม 2025