ตามรายงานของ handelsblatt สื่อเยอรมัน และAuto Express ระบุว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้ผลิตรถยนต์หรูหราได้กำหนดยกเลิกการใช้ชื่อแบรนด์ EQ ในปี 2024 และจะเปลี่ยนกลับไปใช้โครงสร้างการตั้งชื่อแบบเดิม เมอร์เซเดสไม่ต้องการแบรนด์ย่อย แยกต่างหากสำหรับรถ BEV เมอร์เซเดส เปิดชื่อ EQ มาตั้งแต่ในปี 2559 ในฐานะแบรนด์ย่อยใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่(BEV)
Tobi Mantele ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Mercedes กล่าวว่า "EQ เป็นผู้นำทางเทคนิค แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไฟฟ้าในอนาคตจะไม่ใช่ EQ"สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังไม่ได้หันมาใช้ระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยสัญญาว่าจะพัฒนาปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงระบบไฮบริด 48 โวลต์ หรับรถยนต์เบนซินและดีเซลทุกคัน
“เรามี PHEVที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด เราจะไม่ทิ้งโอกาสอื่นๆ ด้วยแพลตฟอร์ม ICE ที่ล้ำสมัยของเรา” โฆษกกล่าวเสริม “แม้ว่าแบรนด์ EQ จะหายไปจากเมอร์เซเดสในอนาคตแต่บริษัทก็ไม่ละทิ้งชื่อนี้โดยสิ้นเชิง เมอร์เซเดสยังต้องการใช้ชื่อดังกล่าว เป็นแบรนด์เทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์เสริมและบริการ EV เช่น ตู้ชาร์จติดผนังและอื่นๆ
EQ ย่อมาจาก “Electric Intelligence” มีการใช้มาตั้งแต่ปี 2019 สำหรับการกำหนดประเภทรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมันรายนี้ใช้แบรนด์ EQ กับรถยนต์ 8 รุ่น ตั้งแต่รถรุ่นเล็กEQAไปจนถึงรถหรูหรา EQSส่วนรถไฟฟ้าSUV อย่าง G-Classโฉมใหม่เป็นรถไฟฟ้าเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีตรา EQ เพราะเลือกใช้ชื่อ G580แทนที่จะเป็น Mercedes EQG ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางล่าสุด
Handelsblatt รายงานว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวของเมอร์เซเดส ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถของ Mercedesได้ง่ายขึ้น ชื่ออย่างC-Class , E-ClassและS-Classได้รับการยอมรับจากลูกค้า และชื่อ EQE SUVและEQS SUV นั้นไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบได้กับรถยนต์ GLEและGLSยอดนิยมและเมื่อรถทุกคันเป็น EVพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อ 'EQ' เพื่อสร้างความต่างอีกต่อไป
ล่าสุดการเผยแพร่เอกสารข่าวของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองไทย ก็ไม่มี อ้างอิงแบรนด์EQ แล้วคงเหลือ แบรนด์ย่อย ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ระบุไว้มี ดังนี้ แบรนด์รถยนต์-เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,แบรนด์ย่อย- เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ,เมอร์เซเดส-มายบัคจี-คลาส แบรนด์สมาร์ท และ Mercedes me-ซึ่งเป็นแบรนด์ที่นำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์
ที่มา:www.handelsblatt.com