
FORD RANGER WILDTRAK X มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0 ลิตร ที่ปรับให้รองรับมตรฐาน EURO6 นั่นหมายความว่าต้องเติม AdBlue (น้ำยาบำบัดมลพิษเครื่องยนต์ดีเซล หรือสารละลายยูเรียบริสุทธ์) มาพร้อมเกียร์ e-Shifter 10 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4A
ด้านการตกแต่ง ฟังก์ชั่น และสมรรถนะ Ranger Wildtrak X ได้รับการปรับจูนช่วงล่างใหม่รองรับการบรรทุกเพื่อเดินทางมากขึ้นด้วยการติดตั้งโช็ค Bilstein Positive-Sensitive Dampers แบบ Monotube Nitrogen-charged external reservoir, ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง 265/70 R17 General Grabber AT3 All-Terrain ส่งผลให้ Ranger Wildtrak X มีพื้นที่ด้านหน้าและด้านหลังกว้างขึ้น 30 มิลลิเมตร มากกว่า Wildtrak รุ่นปกติ รวมถึงระยะห่างจากพื้นเพิ่มขึ้นอีก 26 มิลลิเมตร แต่ความสามารถในการลากจูงยังเท่าเดิม คือ 3,500 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบช่วยควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลัง Trail Turn Assist ช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในทางแคบได้ดีขึ้น โดยใช้การควบคุมระบบเบรกที่ล้อหลัง ทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 19 กม./ชม. และเมื่ออยู่ในโหมด 4H หรือ 4L เฟืองท้ายต้องปลดล็อคจากระบบ Diff-Lock ระบบนี้สามารถลดวงเลี้ยวได้ถึง 25% นอกจากนี้ ยังเพิ่มระบบควบคุมการขับในเส้นทางออโรดในความเร็วต่ำ Trail Control ซึ่งติดตั้งอยู่ใน Ranger Raptor
อีกหนึ่งระบบที่เน้นการใช้งานแบบออฟโรดคือ Rock Crawl ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับสามารถเดินทางผ่านอุปสรรคในเส้นทางที่มีลักษณะเป็นหิน โดยจะต้องอยู่ในโหมด 4L ระบบจะล็อคเฟืองท้ายโดยอัตโนมัติ และควบคุมคันเร่งและปรับใช้เกียร์อัตโนมัติ
ภายนอกอื่นๆได้รับการปรับและเพิ่มอุปกรณ์ดังนี้ ตัวรถมากับสีส้ม Cyber Orange ที่เคยอยู่ใน Ford Bronco กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สไตล์ออฟโรดสีดำพร้อมไฟ LED ในตัวแบบ Stormtrak แผ่นกันกระแทกเหล็กใต้ท้องรถ บันไดข้างอลูมิเนียมใหม่ รุ่นพิเศษใหม่นี้ยังมาพร้อมกับระบบแร็คหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับการใช้งานได้ และปรับคิ้วซุ้มล้อให้มีความหนามากขึ้น
ภายใน Ranger Wildtrak X มาพร้อมกับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว ระบบเสียงระดับพรีเมียมของ B&O และ Upfitter Switches มีเบาะนั่งแซมด้วยหนังกลับ พร้อมลายปัก Wildtrak X งานเดินด้านสีส้ม Cyber Orange
การเปิดตัวในครั้งนี้ ฟอร์ดยังไม่ระบุราคาวางจำหน่ายในออสเตรเลีย


