Massautocar สำรวจ ยอดจดทะเบียนรถใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ช่วงครึ่งปีแรก 2567 (ม.ค.-มิ.ย.67) โดยพบว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยมีการจดทะเบียนรวมรถทุกประเภท ทั้งนี้ 36,857 คัน โดย 10 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ที่จดทะเบียนสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าวได้แก่ 1.BYD ที่ครองอันดับหนึ่งไม่เปลี่ยนแปลง BYD มียอดจะทะเบียน 14,775 คัน คิดเป็นสัดส่วนการครองตลาด 40% BYD ยังคงมีความแข็งแกร่งด้วยความหลากหลายในตัวเลือกหลายเช็คเมนท์และ มีการทำราคาลดลงอย่างมาก
2. MG ค่ายเอ็มจี มียอดจะทะเบียน 5,164 คัน MG สามารถทำยอดได้ดีเนื่องจาก มีรถยนต์ยอดนิยมอย่าง MG4 เป็นตัวทำยอดหลักนอกจากนี้ ตลาดรถยนต์ฟรีด หรือ การขายเข้าตลาดองค์กรและรถเช่า สำหรับรถรุ่น EP และ ES ทำให้ MG ทำยอดได้สูงมาก จนครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 14% 3.ค่าย NATA มียอดจะทะเบียน 3,988 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 10.8% ค่ายNATA ควรจะทำยอดได้มากกว่านี้แต่ในช่วง 2เดือนก่อนหน้า NATA อยู่ระหว่างการเปลี่ยนการผลิตจาก NATA V เป็น NATA V II ซึ่งทำการผลิตในประเทศ ทำให้การส่งมอบชะลอตัว NATAหลังผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปน่าจะทำได้ตลาดได้มากขึ้นจากรถรุ่นใหม่ NATA X และความพร้อมในการส่งมอบ
อันดับ 4.ได้แก่ ดีพอล มียอดจดทะเบียน 3,150 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 8.55% ถือว่าเป็นรถที่มาแรงโดยเฉพาะ S07 แม้ดีพอลจะมีรถจำหน่ายแค่ 2 รุ่นถือว่าทำยอดได้ดีอันดับ 5 .ได้แก่ไอออน จากค่ายGAC มียอดจดทะเบียน 2,876 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 7.8% ยอดจดทะเบียนของค่ายนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากการขายเป็นรถลิมูซีนในสนามบินและรถสำหรับการเช่า ส่วนการขายในตลาดส่วนบุคล เมื่อเทียบสัดส่วนแล้วไอออน ถือว่าทำได้น้อยมาก
รถยนต์อันดับ 6.ได้แก่ TESLA ค่ายรถจากอเมริกาที่มียอดจดทะเบียน 2,451 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด6.65% TESLA นั้นทำยอดสม่ำเสมอไม่มีความหวือหวากลุ่มลูกค้าของค่าย TESLAแตกต่างไปจาก กลุ่มลูกค้าค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน
อันดับ 7.ได้แก่ ORA รถในเครือ GWM มียอดจดทะเบียน 1,642 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด4.46% GWM มีเพียงแบรนดื ORA เพียงแบรนด์เดียวที่ทำตลาดรถไฟฟ้า 100% และมีรูปแบบรถให้เลือก จำกัด ทำให้ปริมาณการขายค่อนข้างคงที่
อันดับ 8.ได้แก่ BMW มียอดจดทะเบียน 861 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด2.34% กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยม ถือว่า BMW ทำตลาดเป็นอันดับที่ 1 เมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด BBA (เบนซ์ บีเอ็ม ออดี้) เนื่องจากBMWมีรถหลากหลายให้เลือกและมีการแนะนำรถยนต์สู่ตลาดค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนเบนซ์และออดี้ มีตัวเลือกจำกัด
อันดับ 9.ได้แก่VOLVO มียอดจดทะเบียน 646 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด1.75% ค่ายวอลโว่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนรุ่นและเปลี่ยนชื่อเรียกของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกรถยนต์ใหม่หายไปจากตลาดเกือบ 2 เดือน วอลโว่มาเร่งส่งมอบรถ ระหัสใหม่ในช่วงเดือนสุดท้ายของครึ่งปีแรกทำให้ยอดเพิ่มขึ้น
อันดับ 10.ได้แก่ WULING มียอดจดทะเบียน 421 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด1.14% ความพยายามของ วู่หลิง(WULING) โดยการทำตลาดรถรุ่นใหม่ ในตลาดตลอดเวลาแต่รถของ WULING รุ่นที่เคยขายอยู่กลับทำยอดได้น้อย เหมือนจะขาดความต่อเนื่องและ WULING ยังประสบปัญหาการแข่งขันทางด้านราคาจากคู่แข่งทำให้เสียเปรียบ รถของWULING น่าจะทำขายเป็นล็อตๆ เมื่อหมดล็อตแล้วยอดก็ตกเหมือนรุ่นก่อนๆ
แนวโน้มครึ่งปีหลัง2567
หากพิจารณาจากปริมาณการขายต่อเดือนในช่วง 6เดือนแรกที่ผ่านมาจะพบว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายทะลุ 1 หมื่นคันเดือน มกราคม เพียงเดือนเดียวที่ทำยอดได้ถึง 13,491 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเริ่มส่งมอบ รถใหม่จากคำสั่งซื้อช่วงงานมหกรรมยานยนต์ ปี 2566 จากนั้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก็ปรับตัวลดลง ในเดือน กุมภาพันธ์มียอดส่งมอบ 3,573 คัน หรือลดลง 73.5% จากนั้นในเดือนมีนาคม ตลาดมียอด 4,859 คัน การเติบโตเพิ่มขึ้น 36% เทียบจากเดือนก่อนหน้าก่อนที่ยอดจะลดลงเหลือ 3,981 ในเดือนเมษายนหรือลดลง18% เป็นผลมาจากการชะลอซื้อเพื่อพิจารณารถและโปรโมชั่นใหม่ๆ ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ซึ่งจัดในช่วงเดือนเมษายน 2567
สำหรับการส่งมอบใน 2 เดือนสุดท้ายของครึ่งปีแรกมี การจดทะเบียนอยู่ในระดับ 5}000 คันต่อเดือนและมีแนวโน้มที่เติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ในครึ่งปีหลังเชื่อว่า ปริมาณการส่งมอบระดับนี้น่าจะยังคงอยู่ ต่อเนื่องไปตลอดครึ่งปีหลัง จากการรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัว และการปรับลดราคาของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด รวมถึง ความคุกคักจากงานมหกรรมยานยนต์ในช่วงเดือนพ.ค.2567