EN / TH

ฮอนด้า นิสสัน เจรจาควบรวมกิจการ

18 ธันวาคม 2567

MOTOR EXPO 2024 ปิดฉากสวยยอดจองกว่า 5 หมื่นคัน

11 ธันวาคม 2567

สำรวจหน้างาน มหกรรมยานยนต์เวทีร้อน โปรฉ่ำลุ้นยอดก่อนปิดงาน

6 ธันวาคม 2567

โฟตอน มอเตอร์ ผนึก คัมมินส์ เปิดโรงงานเครื่องยนต์ในไทย

6 ธันวาคม 2567

เปิดสเปค กระบะโพเออร์ ซิงเกิลแคป ดีเซลตัวแรกบุกไทย

5 ธันวาคม 2567

เนต้า ส่งสาส์นสร้างความมั่นใจ หลังหนานหนิงฯเข้าถือหุ้นใหญ่

3 ธันวาคม 2567

เปิดสเปก กระบะไฟฟ้า FOTON eTUNLAND หนึ่งชาร์จวิ่ง 350 กิโลเมตร

1 ธันวาคม 2567

โตโยต้า ส่ง GR ซีรี่ส์ เจาะตลาดเก๋งสมรรถสูง

30 พฤศจิกายน 2567

อีซูซุยกขบวนยนตรกรรมโชว์ขุมพลังดีเซล2.2L แห่งอนาคต 

30 พฤศจิกายน 2567

มาสด้า เปิดตัวกระบะ BT-50 ดีเซล 2.2

29 พฤศจิกายน 2567

เปอโยต์ จี๊ป ส่ง 2 รุ่นใหม่อวดโฉม เวทีมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่41

29 พฤศจิกายน 2567

เปิดราคารถรุ่นใหม่ค่ายฉางอาน บนเวทีมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

29 พฤศจิกายน 2567

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า รถยนต์ไฟฟ้า

MG ES อเนกประสงค์ไฟฟ้าทรงเอสเตท จัดเต็มระบบความปลอดภัย คาดราคาแตะ 9 แสนบาท

13 มีนาคม 2566| จำนวนผู้เข้าชม 835

“NEW MG ES” ชูจุดเด่นการเป็นรถไฟฟ้าที่เติมเต็มความสะดวกสบาย พร้อมเปิดรับจองให้เป็นเจ้าของก่อนใคร เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ จอง 10,000 บาท ใช้เป็นส่วนลดได้ 20,000 บาท และรับฟรี! อุปกรณ์ต่อเชื่อมกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2566 - 19 มีนาคม 2566 เวลา 23.59 น. ณ โชว์รูมเอ็มจีที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ (EV Authorized Dealer) รวมทั้งช่องทางเว็บไซต์ https://onlinebooking.mgcars.com/ และแอพพลิเคชัน MG THAILAND พร้อมเปิดราคาอย่างเป็นทางการ วันที่ 20 มีนาคม 2566 นี้ ที่งานบางกอก อินเตอร์แนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 4

 

 

NEW MG ES มาพร้อมกับ New ERA Design ที่ออกแบบตัวรถใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ดูเรียบหรูผสานความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว  

Exterior Design:  ดีไซน์สเตชั่นแวกอน ที่พรีเมียมและล้ำสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ

 

  • มิติตัวถัง 4,600 x 1,818 x 1,543 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,665 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มิลลิเมตร
  • ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้าย LED โฉมใหม่แบบ Light Curtain Design ที่ดูโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ

 

    • ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) 

 

  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว 
  • กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว 
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง
  • ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า และที่ปิดห้องเก็บสัมภาระท้าย
  • ชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม

 

 

 

Interior Design: ความพรีเมียมภายในที่ใช้งานได้จริง

ห้องโดยสารที่ เรียบหรู กว้าง พร้อมดีไซน์ ENERGETIC BLUE STRIP พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seats เพื่อรองรับสรีระของผู้นั่ง กับความสามารถในกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร

    • คอนโซลแบบ DOUBLE LAYER พร้อมพื้นที่ช่องเก็บของรอบคัน และที่วางแก้ว 
    • เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN กับผิวสัมผัสที่สบายและดูแลรักษาง่าย พร้อมเส้นสายการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP 
    • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง 
    • เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40
    • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
    • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด

 

  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE-A และ TYPE- C 

 

    • รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android 
    • กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ

 

  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตัล พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart key) พร้อมปุ่ม Push Start 

 

 

 

E- PERFORMANCE: สเตชั่นแวกอนอีวีแนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ

เต็มประสิทธิภาพทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กับแพล็ตฟอร์มระบบส่งกำลัง SAIC E1 THREE - ELECTRIC SYSTEM มาพร้อมขุมพลังที่ให้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มาพร้อม ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ที่ให้การทรงตัวที่ดี ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

  • แพล็ตฟอร์มระบบส่งกำลังใหม่ SAIC E1 THREE - ELECTRIC SYSTEM 
  • มอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM)
  • แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE)
  • พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย 
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • รัศมีวงเลี้ยว 5.65 เมตร 
  • ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
  • ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)

 

SAFETY: ปลอดภัยและอุ่นใจ...สบายใจทุกการเดินทาง

NEW MG ES มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และมีการติดตั้งระบบ           ความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS)       รวม 20 ระบบ ได้แก่

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK 

(Emergency Lane Keeping Assist)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX 2 จุด
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย 
  • กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

 

COMFORTABLE CHARGING: ไปได้ทุกทิศทั่วไทย สะดวกสบายด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม

NEW MG ES มาพร้อมกับแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ที่ให้สมรรถนะและรองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge เร็วขึ้น ให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่ติดตั้งแล้วกว่า 158 แห่งทั่วประเทศ 

  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% - 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 87 kW
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ
    7 ชั่วโมง 15 นาที* ที่ 6.6 kW รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW 
  • รองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์
  • ปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ใช้งานต่อเนื่องได้ดียิ่งขึ้น และมีน้ำหนักเบาลง 22% 

 

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

 

CONNECTION: สะดวกสบาย...ง่ายทุกการเชื่อมต่อ 

NEW MG ES มาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite version ตอบสนอง                        ทุกไลฟ์สไตล์และอำนวยความสะดวกสบายของผู้ใช้งานไปอีกขั้น ให้เข้าถึงระบบการใช้งานรถไฟฟ้า                เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

SMART CHECK (ระบบตรวจเช็คอัจฉริยะ) 

 

  • ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
  • ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
  • ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
  • ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
  • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
  • ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ

 

SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ)

  • กุญแจดิจิตอล
  • ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
  • ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
  • ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
  • ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน

 

NEW MG ES มาพร้อมสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver) และตกแต่งภายในสไตล์ทูโทนพร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

เนต้า ส่งสาส์นสร้างความมั่นใจ หลังหนานหนิงฯเข้าถือหุ้นใหญ่

3 ธันวาคม 2567

เปิดสเปก กระบะไฟฟ้า FOTON eTUNLAND หนึ่งชาร์จวิ่ง 350 กิโลเมตร

1 ธันวาคม 2567

เปิดราคารถรุ่นใหม่ค่ายฉางอาน บนเวทีมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

29 พฤศจิกายน 2567

จูนเหยา เปิดตัวแบรนด์ในไทย จัดโปรแจกตั๋วเครื่องบิน 3 ปี

29 พฤศจิกายน 2567

เจาะละเอียดรถ BYD บนเวทีมหกรรมยานยนต์ครั้งที่41

29 พฤศจิกายน 2567

เปิดวาร์ป 4 แบรนด์น้องใหม่ค่ายจีนบุกไทยปลายปี

6 พฤศจิกายน 2567

จูนเหยา แอร์ บุกตลาดอีวีไทย

5 พฤศจิกายน 2567

โตโยต้าจับมือซูซูกิ ส่งรถยนต์SUVไฟฟ้าโต้ค่ายจีน

4 พฤศจิกายน 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว+

ยอมรับ