EN / TH

เรเว่ ออโตโมทีฟ ขยายคลังอะไหล่BYD แห่งใหม่

17 พฤษภาคม 2567

มิตซูบิชิ"เปิดแผน"โมเมนตัม 2030" กลยุทธ์ 5 ปีดันรถยนต์ไฟฟ้าบุกตลาดอเมริกาเหนือ

17 พฤษภาคม 2567

ศึกชิงบัลลังก์รถกระบะไฟฟ้า: ฟอร์ด เอฟ-150 ไลท์นิ่งโค่นไซเบอร์ทรัค แต่ ริเวียน R1T ยังเกาะอันดับสาม

17 พฤษภาคม 2567

สงคราม EV ปะทุ ไบเดนเลือกขึ้นภาษีรถจีน ปักกิ่งโต้ปิดตลาด "ฆ่าตัวเอง" หากไม่ปรับตัว

16 พฤษภาคม 2567

MG พร้อมขับเคลื่อนรง.มูลค่า 3 หมื่นล้านหลังเปิดใช้งานครบทุกเฟส

14 พฤษภาคม 2567

เจาะลึกเอ็มพีวี พรีเมี่ยมMajesty (MY24) ยุค EURO 5 บวกราคาอีก 5%

13 พฤษภาคม 2567

สหรัฐฯ เตรียมเผยอัตราภาษีรถยนต์ EV สกัดรถจีนสัปดาห์หน้า

10 พฤษภาคม 2567

10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนเมษายน 2567 DEEPAL มาแรงจ่อแซง BYD

10 พฤษภาคม 2567

จับตาทัพใหญ่มิตซูบิชิ จับมือ ปตท ลุยตลาดEV

9 พฤษภาคม 2567

VinFast เล็งเปิดฟิลิปปินส์ ปลายพ.ค.2024

9 พฤษภาคม 2567

Bangkok Auto Salon 2024 เปิดสมัคร ‘A Class Girl Thailand 2024’

9 พฤษภาคม 2567

BYD ย้ำไม่ทำตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้า ด้านเกรทวอลล์ลุยเปิด"Souo"สองล้อแบรนด์ใหม่

8 พฤษภาคม 2567

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า รถยนต์ไฟฟ้า

Honda e:N1 ขุมพลัง 204 แรงม้า / 310 Nm ดิสก์เบรก 4 ล้อ พิสัยวิ่ง 500km/ชาร์จ (NEDC) แบต Li ion ความจุ 68.8 kWh เปิดให้เช่าในราคาเดือนละ 29,000 บาท

26 มีนาคม 2567| จำนวนผู้เข้าชม 544

Honda e:N1 ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นแบรนด์หลักที่ผลิตในประเทศไทยเป็นแบรนด์แรก ภายใต้มาตรฐานการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของฮอนด้า พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ของขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ลงตัวกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน

 

โดยไม่ได้ขายขาด แต่จะเปิดให้เช่าในราคาเดือนละ 29,000 บาทผ่านตัวแทนบริษัทต่าง ๆ

 

Honda e:N1 พัฒนาภายใต้แนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (Human-centered Development)มาพร้อม แพลตฟอร์ม e:N Architecture F แพลตฟอร์มที่รองรับการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงจากฮอนด้า ที่ได้รับการพัฒนาใหม่

 

ขุมพลังไฟฟ้าตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power DriveUnit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า (PS) มอบสมรรถนะที่แรงเร้าใจให้แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ที่ผสานการทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ส่งผลให้สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ระบบกันสะเทือน หน้าแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง -หลังแบบทอร์ชันบีม ดิสก์เบรก 4 ล้อ

 

รองรับหัวชาร์จ แบบ DC CCS 2 และแบบ AC Type 2 มาพร้อมไฟสีต่างๆ แสดงสถานะการชาร์จใช้งานได้ง่าย โดยขณะกำลังชาร์จไฟ แถบไฟแนวนอนจะกะพริบเบาๆ จากซ้ายไปขวา เมื่อชาร์จเสร็จ แถบชาร์จจะสว่างอยู่ตลอดเพื่อให้รู้ว่า แบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้ว นอกจากนี้ หากเกิดข้อผิดพลาดในการชาร์จ จะมีไฟสีแดงกะพริบ เมื่อชาร์จเสร็จและถอดสายไฟออก รถจะส่งสัญญาณไฟกะพริบเพื่อแสดงสถานะว่าได้ถอดสายชาร์จออกแล้ว

 

มิติตัวถัง

 

ความยาว 4,380
ความกว้าง 1,790
ความสูง 1,592
ฐานล้อ 2,607
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า 1,539
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หลัง 1,540
ความสูงใต้ท้องรถ 135
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 1,662
ขนาดล้อ (นิ้ว) 18
ขนาดยาง 225 / 50 R18

 

การออกแบบภายนอกของ Honda e:N1

  • ได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์ที่พรีเมียม ล้ำสมัย
  • โลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียมมินิมอล ที่มาพร้อมกับคำว่า Honda ภายใต้ฟอนต์ใหม่ที่ด้านหลังของตัวรถ
  • โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่เรียบหรู
  • แบตเตอรี่ และเส้นสาย LED แสดงสถานะขณะกำลังชาร์จไฟในรูปแบบแนวนอนยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าไปจนถึงไฟท้าย
  • ช่องชาร์จแบตเตอรี่ด้านหน้าพร้อมไฟแสดงสถานการณ์การชาร์จ ทำให้รู้สถานะการชาร์จได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke แบบเต็มความยาวที่เชื่อมต่อกับไฟท้ายทั้งสองข้าง
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา
  • สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว

 

การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบเพื่อเน้นความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยการใช้วัสดุคุณภาพสูง ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารผ่อนคลายจากการจัดวางแสงที่นุ่มนวล ผสมผสานกับการตกแต่งภายในระดับพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างสะดวกสบาย

  • ไฟสร้างบรรยากาศภายในสีฟ้า (Blue Ambient Light) 
  • แท่น Wireless Charger
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา
  • ระบบ Air Diffusion System มอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
  • แผ่นกรองอากาศกรองฝุ่น PM 2.5
  • พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง
  • ระบบสตาร์ทรถยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Climate Pre-conditioning)
  • ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังดีไซน์สปอร์ตสีดำตกแต่งด้วยขอบสีขาวและด้ายสีฟ้า
  • ปรับผังที่นั่งใหม่ให้รองรับสรีระและการบุนุ่มเพื่อรองรับส่วนที่สัมผัสบ่อย 
  • เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ คือ Utility Mode และ Long Mode
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้วแบบ Advanced Touch
  • รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto 
  • โซนบนเป็นโซน 'Connect' ที่รวม ระบบการนำทาง นาฬิกา และจอแสดงผลของกล้องมองหลัง
  • โซนกลางเป็นโซน 'Driver Assist' หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่จะแสดงสถานะการทำงานของรถยนต์ การตั้งค่าระบบเสียงและการสื่อสาร พร้อมด้วยเมนูการแสดงการทำงานของระบบ EV
  • โซนล่างจะเป็นโซนควบคุมระบบปรับอากาศ ที่แสดงข้อมูลการปรับอากาศภายในห้องโดยสาร
  • ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง (USB-A 1 ช่อง ในช่องหน้า และ
    USB-C ในช่องหน้า 1 ช่อง และช่องหลัง 2 ช่อง)
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ซัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย

 

Drive Mode โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ

  • โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ที่ช่วยปรับการทำงานของมอเตอร์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น
  • โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยมอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลังให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหมาะสมและมอบความสะดวกสบายในห้องโดยสาร
  • โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) พร้อมปรับการทำงานของมอเตอร์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดพลังงานมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่

 

เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ระดับพรีเมียมที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่และทำให้การขับขี่ราบรื่นในทุกเส้นทาง

  • ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อม ระบบ Auto Brake Hold
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดซัน (Hill Start Assist - HSA)

 

เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน

  • (Honda SENSING) ที่ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System withLane Departure Warning: RDM with LDW)ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
  • ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียงเพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้าพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information - BSI)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor - CTM)
  • เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (หน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) สามารถล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถในระยะ 1.5 เมตรขึ้นไป
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (AHA)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง(Side Curtain Airbags)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD)บนพื้นถนนที่ลื่น
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA)
  • เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
  • ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
  • ชุดซ่อมยางชั่วคราว (TPRK)

 

เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสาร Honda CONNECT 9 ฟังก์ชัน

  1. My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้นโดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
  2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือนหรือรายปี และบันทึกการเดินทางที่สามารถเลือกทริปโปรดและแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์เดิม) เป็นต้น
  3. WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง *ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
  4.  Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
  5. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และแจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
  6. Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทรถยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับรถยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
  7. Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
  8. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
  9. Charging Status สามารถติดตามสถานะ หรือปรับตั้งค่าการชาร์จแบตเตอรี่ของ Honda e:N1 ได้ โดยสามารถปรับตั้งค่าให้เข้ากับสภาพการชาร์จต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จที่ 'บ้าน' หรือการชาร์จไฟเมื่อตนเอง 'ไม่อยู่' ใกล้รถ โดยมี 3 ระดับให้เลือก ตั้งแต่ 'LOW' ซึ่งจำกัดกำลังไฟฟ้าไว้ที่ 6 แอมป์ ไปจนถึง 'HIGH' ที่รองรับกระแสไฟสูงสุดจากเครื่องชาร์จได้เท่ากับกำลังสูงสุดที่แบตเตอรี่จะรับได้

 

รุ่นและสี
Honda e:N1 มีให้เลือก 1 รุ่นย่อย และสีภายนอกเพียงสีเดียวได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)

 


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงบัลลังก์รถกระบะไฟฟ้า: ฟอร์ด เอฟ-150 ไลท์นิ่งโค่นไซเบอร์ทรัค แต่ ริเวียน R1T ยังเกาะอันดับสาม

17 พฤษภาคม 2567

10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนเมษายน 2567 DEEPAL มาแรงจ่อแซง BYD

10 พฤษภาคม 2567

จับตาทัพใหญ่มิตซูบิชิ จับมือ ปตท ลุยตลาดEV

9 พฤษภาคม 2567

VinFast เล็งเปิดฟิลิปปินส์ ปลายพ.ค.2024

9 พฤษภาคม 2567

ซีกเกอร์ วางแผนจดทะเบียนในตลาดNYSE 10 พ.ค.

8 พฤษภาคม 2567

เชอรี่ มาเลเซียผุดรง.ใหม่ในชาห์อาลัมสร้างฐานผลิตรถพวงมาลัยขวา

7 พฤษภาคม 2567

VinFast ทำการบ้านมาดี ปรับแผนเต็มที่เพื่อบุกตลาดบ้านเราโดยเฉพาะ โดยเข้าใจถึงสถานการณ์สำคัญอย่าง "ราคา"

29 เมษายน 2567

NEW MG4 ELECTRIC ไตรมาสแรกของปียอดพุ่ง 45% รถ EV ดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้น เพียง 709,900 บาท

26 เมษายน 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว+

ยอมรับ