Honda CR-V เจนฯ 6 เปิดตัวในไทยตามหลังสหรัฐอเมริกาไม่นาน ถือเป็นกลุ่มประเทศแรกที่ได้รับการเปิดตัวรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่นี้ เราไม่พูดเรื่องออฟชั่นอะไรมากมายครับ เน้นไปที่การบอกกล่าวเรื่องสมรรถนะตัวรถกันเลยครับ
นี่คือ CR-V ที่ควบคุมแม่นยำที่สุดตั้งแต่ผมเคยขับมา พวงมาลัยคอลโทรลตัวรถง่าย ตอบสนองต่อการเลี้ยวได้ดี การใช้งานในเมืองคล่องตัว แม้ฐานล้อและบอดี้จะยาวขึ้น ช่วงล่างเก็บอาการดีมากขึ้นกว่ารุ่นเก่าชัดเจน แอบกระด้างสักหน่อยในความเร็วต่ำ แต่พอเป็นความเร็วเดินทางปกติหรือความเร็วสูง อาการสะท้านน้อยกว่ารุ่น Turbo เก็บอาการโยนตัวได้ดี ต่างจากรุ่น Turbo นั่นก็เพราะน้ำหนักตัวที่มากกว่า บวกกับการมีแบตเตอรี่ว่างขวางตัวรถบริเวณใต้เบาะนั่งแถวที่สอง ทำให้รถมีความมั่นคงมากขึ้น ลดอาการบิดตัวของบอดี้ และกระจายน้ำหนักตัวรถได้ดีกว่า ไม่เหมือนรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ที่น้ำหนักไปถ่วงอยู่ที่ด้านหน้ามากกว่า
ในรุ่น RS ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ จากของเดิมที่แปรผันกำลังล้อหน้าหลังได้เพียง 60:40 รุ่นใหม่ G6 นี้ แปรผัน 60:40 จนถึง 50:50 เลยทีเดียว ฉะนั้นไม่ว่าจะเส้นทางโค้ง ทางเปียกลื่น หรือทางฝุ่นที่ทำให้รถต้องเจอกับการลื่นไถล CR-V G6 จะควบคุมได้มั่นใจขึ้น
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็อยู่ในช่วง 9.4-10.5 วินาที เป็นตัวเลขที่พอตัว เหมาะมากกับการเดินทางไกล เพราะความเร็วในช่วงกลางก็เร่งแซงได้ทันใจ อาการรอจังหวังจากคันเร่งไฟฟ้าน้อยกว่าในรุ่น Turbo เหยียบคันเร่งแล้วติดเท้ามากกว่า ด้านการควบคุมเบรก เซ็ตมาดีน้ำหนักสู้เท้ากำลังพอเหมาะ เบรกแรงรถไม่โยกหัวทิ่ม ให้ความมั่นใจในการกะกระยะได้ดีมาก
ระบบ Honda Sensing ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบแจ้งเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน ที่เตือนได้ไว ระยะในการเตือนไม่กระชั้นชิดมากนัก ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามรถยนต์คันด้านหน้าจนถึงจุดหยุดนิ่งใช้งานง่าย และยังให้ความแม่นยำเบอร์ต้นๆของรถยนต์ที่ติดตั้งระบบนี้มา เสียดายที่ยังไม่มีโอกาสได้ลองระบบไฟหน้าอัจฉริยะในรุ่น e:HEV RS เพราะได้ลองขับในเวลากลางวันเท่านั้นครับ
การเก็บเสียงดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากครับ โดยเฉพาะในรุ่นท็อป e:HEV RS อันดับแรกคือใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน ตรงนี้ก็ลดเสียงไปได้เยอะ แรงบิด 335 นิวตันเมตรทำให้รถออกตัวง่าย แม้จะมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตรปั่นไฟ และใช้ขับเคลื่อนในย่านความเร็วสูง แต่ในย่านความเร็วสูง รอบเครื่องยนต์ไม่สูงเหมือนการใช้เครื่องยนต์ในช่วงออกตัว เพราะ e:HEV ระบบไฮบริดของฮอนด้า รถจะออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทำให้เสียงภายใต้ฝากระโปรงเข้ามาในห้องโดยสารน้อยมาก ตลอดจนการใช้กระจกลดเสียง ก็ช่วยลดเสียงลมที่เข้าห้องโดยสารได้มากครับ เสียงที่ชัดที่สุดคือ เสียงยางที่สะท้อนจากซุ้มล้อ แต่รุ่น RS ติดตั้งยาง Michalin Latitude Sport 3 ต่างจากรุ่นอื่น ตรงนี้ก็ส่งผลให้เงียบกว่ารุ่นย่อยอื่นตามไปด้วยครับ
ข้อติติง
- การที่ยังไม่ใส่ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM และ RCTA มาให้เสียที ลำพังระบบ HondaLaneWatch มันไม่พอครับ เพราะกล้องฝั่งซ้ายเพียงด้านเดียวมันไม่ชัด และทำงานไม่ครอบคลุมทั้งสองด้านของตัวรถ
- หัวเกียร์ที่ไม่ออกแบบให้ต่างจากรุ่นอื่นเลย ไม่เข้ากับตัวรถ ลดต้นทุนเกินเหตุในเรื่องนี้ครับ
- วัสดุบุนุ่มที่แผงประตูแถวสองด้านข้างน้อยไป
สรุป All New CR-V e:HEV AWD 2023 กับราคา 1,729,000 บาท จ่ายราคานี้ ซื้อได้ครับ สมรรถนะดี ดีไซน์ดี เหมาะมากกับการเป็นรถยนต์ส่วนตัวใช้เดินทาง ที่บ้านมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้อยู่แล้วในการเดินทางชีวิตประจำวัน มี CR-V e:HEV ไว้เดินทางไกลต่างออกจังหวัด หมดกังวลเรื่องวางแผนการชาร์จ แบบนี้ครอบคุมการใช้งานครับ ไม่ต้องไปสนว่าราคานี้ทำไมไม่เอา TESLA โธ่..คนจริงเขาอาจจะซื้อสองรุ่นสองคันเลยก็ได้ ไม่มีกฎหมายในไทยว่าห้ามซื้อรถข้ามค่ายครับ
บทความโดย ตระกูล ลินทมิตร บรรณาธิการบริหาร MassAutoCar