แม้ตอนนี้ Hipster จะยังเป็นเพียง “รถต้นแบบ” แต่เป้าหมายในการผลิตเชิงพาณิชย์นั้นชัดเจน โดยคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้น ต่ำกว่า 15,000 ยูโร (ราว 567,000 บาท)
Dacia Hipster มีความยาวเพียง 3 เมตร, กว้าง 1.55 เมตร, และสูง 1.54 เมตร ซึ่งเล็กกว่ารถ Kei ของญี่ปุ่นเสียอีก โดยมีเพียงรถขนาดเล็กจิ๋วอย่าง Citroën Ami เท่านั้นที่มีขนาดเล็กกว่านี้ Dacia อธิบายดีไซน์ของ Hipster ว่าเป็น “กล่องที่ตั้งมั่นอยู่บนล้อทั้งสี่มุม” ภายนอกมีลักษณะคล้ายส่วนผสมระหว่าง Jeep และ Land Rover Defender เวอร์ชันย่อส่วน ด้วยด้านหน้าที่สั้น ฝากระโปรงตั้งตรง แทบไม่มีส่วนยื่นตัวถัง ตัวถังรถใช้สีเดียวทั้งคัน ตัดกับแผงกันกระแทกสีสันสดใส 3 ชิ้นที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลบางส่วน และเพื่อลดต้นทุนตัวรถยังใช้ สายรัดแทนมือจับประตู
แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้านท้ายมีพื้นที่เก็บของ 70 ลิตร ซึ่งสามารถขยายได้ถึง 500 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง ภายในติดตั้งระบบ “You Clip” สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ถึง 11 จุด เช่น ที่วางแก้ว ที่วางแขน ไฟส่องสว่าง ฯลฯ ตัวรถมาพร้อมหน้าปัดดิจิทัล, พวงมาลัยทรงล้ำยุค และ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 800 กก. ซึ่งเบากว่า Dacia Spring ประมาณ 20% และด้วยแนวคิดการลดน้ำหนักนี้เอง Dacia ตั้งเป้าจะลด คาร์บอนฟุตพริ้นต์ ตลอดอายุการใช้งานของรถลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ EV ทั่วไป
แม้ Dacia ยังไม่เปิดเผยขนาดแบตเตอรี่หรือกำลังมอเตอร์ แต่ก็ได้บอกใบ้ว่าระยะทางวิ่งถูกออกแบบมาให้ “ตอบโจทย์การใช้งานจริง” มากกว่าตัวเลขการตลาด ตามข้อมูลวิจัยของบริษัทชี้ว่า 94% ของผู้ขับในฝรั่งเศสขับรถไม่เกิน 40 กม./วัน หรือประมาณ 280 กม./สัปดาห์ ดังนั้น Hipster จึงถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานทั่วไปได้โดยชาร์จเพียง 2 ครั้ง/สัปดาห์ ซึ่งคาดว่ามีระยะทางวิ่งราว 93 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง










ที่มา: Carscoops