EN / TH

Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupé สปอร์ตคูเป้เบนซิน 6 สูบ เปิดราคาประกอบไทย 5,250,000 บาท

7 กันยายน 2567

เกรทวอลล์ ลุยแหลกแต่ วินฟาสต์ไม่ไปต่อ

3 กันยายน 2567

"เชอรี่"มาแนวใหม่จับมือ KGEN ทุนไทยร่วมผลิต OMODA&JAECOO

23 สิงหาคม 2567

‘เอ็กซ์เผิง เคาะราคา ‘จีซิกส์ 1.43 ล้าน พร้อมเปิดแบรนด์อย่างเป็นทางการ

21 สิงหาคม 2567

เอ็มจีเปิดตัว MG3+ เคราะราคาเริ่มต้น 5.59แสน 1,000 คันแรก

20 สิงหาคม 2567

ฟอร์ด เปิดจำหน่ายชุดแต่งพิเศษ ‘แอดเวนเจอร์แพ็ค’

19 สิงหาคม 2567

นิสสันปรับใหญ่ "นาวาร่า" เพิ่มระดับพรีเมี่ยมห้องโดยสาร

16 สิงหาคม 2567

ซีตรอง ถอนตัวจากตลาดออสเตรเลีย หลังทำธุรกิจกว่า100 ปี

16 สิงหาคม 2567

เบื้องหลังฮอนด้าปรับเกมตลาดปิดช่องโหว่กลุ่มลูกค้าอ่อนไหวด้านราคา

5 สิงหาคม 2567

ตลาดรถครึ่งปี67 ร่วง24.2%แนวโน้มครึ่งปีหลังทรุดต่อ

31 กรกฏาคม 2567

เกมเชนจ์ บอร์ด EV รั้งทุนญี่ปุ่่นฟาดกลับจีน

27 กรกฏาคม 2567

NETA เคาะราคาNETA X ชน BYD เริ่ม 7.39 แสน

25 กรกฏาคม 2567

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า รถยนต์

ซูซูกิ ยืนยันส่งรถยนต์ไฟฟ้าลงตลาดไทยปี 68

18 กรกฏาคม 2567| จำนวนผู้เข้าชม 266

 

18 ก.ค. 2567 -กรุงเทพมหานคร- บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ จากญี่ปุ่น ประกาศแผนดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ครั้งแรกหลังที่มีรายงานข่าวการหยุดผลิตของโรงงานซูซูกิ ไปเมื่อ 2 เดือนก่อน  นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศ​ยังคงซบเซา ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา(เดือนมกราคม-มิถุนายน67) ตลาดรถยนต์รวมมียอดขายอยู่ที่ 307,995 คัน สำหรับซูซูกิ ยอดขายรวมทั้งสิ้น 3,791 คัน ลดลง 54 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดยังคงหดตัว คือ ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินอย่างชัดเจน



ซูซูกิ สวิฟท์ โฉมใหม่หนึ่งในรถที่รอเข้ามาเปิดตลาดไทยในเร็วๆ นี้


เผยอุตสาหกรรมไทยยังไม่ฟื้นตัว
"แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันในอุตสากรรรมยานยนต์ที่เข้มข้น สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ฟื้นตัว จนส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในภาพรวม และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคง จึงเตรียมแผนการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรองรับต่อการแข่งขันในอนาคต ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” 


รถคอนเซ้ป คาร์ e:VX รถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งเดียวของซูซูกิที่มีแผนชัดเจนในการนำไปผลิตออกสู่ตลาดในปีหน้า

เตรียมรถใหม่4รุ่นทำตลาดอนาคต
นายซูซูกิ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมความพร้อมแข่งขันในตลาดรถยนต์ ด้วยแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไปซึ่งสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100% โดยมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน 





หันยกระดับงานบริการ
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิมีแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ประกาศไปในการประชุมตัวแทนจำหน่ายเมื่อเร็วๆ นี้ คือ แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE”ซึ่งจะเป็นการยกระดับงานบริการในทุกด้าน โดยเน้นย้ำถึงการดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ มอบคุณภาพของงานบริการที่ดีที่สุด ตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้าชาวไทยมอบให้เสมอมา แคมเปญดังกล่าวมุ่งเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการ เตรียมขยายการรับประกันฟรีค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมเป้าหมายมีอะไหล่รองรับรถยนต์ทุกรุ่นนาน 10 ปี โดยนำแอปพลิเคชันHello Suzuki รองรับงานบริการที่รวดเร็วทันใจ เร่งเดินหน้าขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค และพัฒนายกระดับศูนย์ซ่อมตัวถังและสีตามมาตรฐานของซูซูกิเพื่อรองรับงานบริการอย่างทั่วถึงในอนาคต 

"เพื่อให้ซูซูกิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย การปรับปรุงแผนและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง"นายวัลลภกล่าว


เปิดรายละเอียดแคมเปญบริการโฉมใหม่
สำหรับรายละเอียด แคมเปญประกอบไปด้วย 7 หัวข้อ ดังนี้

1.ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี

  • สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้าเช็กระยะต่อเนื่องตามกำหนดกับศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิทุกสาขา ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ขยายการรับประกันอะไหล่และงานบริการ

  • บริษัทได้ขยายการรับประกันงานซ่อมและอะไหล่แท้ทุกชิ้น นานถึง 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) จากเดิมที่รับประกันเพียง 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตร
  1. บริการพิเศษรถสำรองใช้ระหว่างซ่อม
  • รถยนต์ที่อยู่ในระยะรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร จะมีบริการพิเศษ ‘รถสำรองใช้ระหว่างซ่อม’สำหรับรถที่ต้องใช้เวลาตรวจเช็กมากกว่า 1วัน (ไม่รวมระยะเวลาวิเคราะห์ปัญหา) และไม่รวมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ

4. HELLO SUZUKI APPLICATION ยกระดับงานบริการแบบ S-Solution

  • HELLO SUZUKI คือ แอปพลิเคชัน เชื่อมต่อข้อมูลการทำงานกับลูกค้า เช่น การนัดหมายนำรถเข้ารับบริการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล รายงานการตรวจสอบและดูแลรถในทุกขั้นตอน รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษ ด้วยการสะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุงตามระยะหรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการของซูซูกิทั่วประเทศ
  1. ระบบการจัดการอะไหล่มีเป้าหมายรองรับบริการได้ไม่น้อยกว่า10 ปี
  • เตรียมระบบจัดการอะไหล่รถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายภายในประเทศ ช่วยให้ลูกค้าคลายความกังวลเรื่องการขาดแคลนอะไหล่ในการบำรุงรักษารถ ซูซูกิมีคลังอะไหล่ 2 แห่ง คือคลัง อ่อนนุช มีพื้นที่จัดเก็บ 1,216 ตารางเมตร และคลังระยอง พื้นที่จัดเก็บ 4,076 ตารางเมตร รวมถึงคลังอะไหล่ของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ มีอะไหล่จัดเก็บรวมมากถึง 741,000 ชิ้น โดยมีเป้าหมายรองรับความต้องการของลูกค้าได้ไม่น้อยกว่า10 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการผลิต
  • บริการจัดส่งอะไหล่แบบเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่อื่นๆ ภายใน 48 ชั่วโมง
  • คุ้มค่าต่อการใช้งาน ด้วยอะไหล่ในราคาที่เข้าถึงง่าย
  1. ศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
  • ปัจจุบันซูซูกิมีศูนย์บริการ 92 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และเตรียมแต่งตั้งผู้จำหน่ายรายใหม่เพิ่มอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดพัทลุง
  1. ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังตามมาตรฐานของซูซูกิ

    ปัจจุบันซูซูกิมีผู้จำหน่ายที่มีบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีตามมาตรฐานของซูซูกิ ด้วยกันทั้งหมด 32 แห่ง และในอนาคตจะเพิ่มอีกจำนวน  9 แห่ง ทั้งในจังหวัดนนทบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอยุธยา จังหวัดลพบุรี และจังหวัดขอนแก่น ภายในปี 2567


“เราพยายามพัฒนางานบริการหลังการขายให้ยกระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มเข้ามาของบริการ HELLO SUZUKI คือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนา ระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้เพื่อทราบถึงข้อมูลการเข้ารับบริการของลูกค้าได้แบบ Real Time ซึ่งช่วยประเมินความต้องการของลูกค้า ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังร่วมมือกับผู้จำหน่ายทุกราย มุ่งเน้นการอบรมพนักงานในเชิงปฏิบัติอย่างมืออาชีพให้มีใจรักในการบริการลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย” นายวัลลภ กล่าว

 

ทั้งนี้ แม้ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะการหดตัวลงของตลาดและความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรายังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งนอกจากต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของซูซูกิเป็นอย่างสูงแล้วนั้น ต้องขอขอบคุณผู้จำหน่ายของซูซูกิทุกรายที่ทำงานอย่างหนัก ขอให้ลูกค้าซูซูกิทุกท่านเชื่อมั่นได้ว่า  เราจะยังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ จนซูซูกิสามารถทำยอดขายสะสมถึง 310,885 คัน

 

อย่างไรก็ตาม ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” นอกจากเป็นแนวทางในการยึดมั่นให้เราพัฒนางานบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นโครงการที่ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและคนไทยทุกท่าน ว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย พร้อมทั้งตอกย้ำการมาของรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปที่จะสร้างการเติบโตของตลาดรถยนต์ภายในประเทศต่อไป

ทั้งนี้บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  เป็นหนึ่งในสองค่ายรถยนต์ ต่อจากซูบารุที่ประกาศยกเลิกการผลิตในประเทศไทยเนื่องจากเศรษฐกิจที่ซบเซา ไม่คุ้มกับการลงทุนผลิตในประเทศ โดยหันไปนำเข้ารถยนต์จากฐานผลิตอินโดนีเซีย อินเดีย และญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายแทน


 


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupé สปอร์ตคูเป้เบนซิน 6 สูบ เปิดราคาประกอบไทย 5,250,000 บาท

7 กันยายน 2567

เกรทวอลล์ ลุยแหลกแต่ วินฟาสต์ไม่ไปต่อ

3 กันยายน 2567

เอ็มจีเปิดตัว MG3+ เคราะราคาเริ่มต้น 5.59แสน 1,000 คันแรก

20 สิงหาคม 2567

ฟอร์ด เปิดจำหน่ายชุดแต่งพิเศษ ‘แอดเวนเจอร์แพ็ค’

19 สิงหาคม 2567

นิสสันปรับใหญ่ "นาวาร่า" เพิ่มระดับพรีเมี่ยมห้องโดยสาร

16 สิงหาคม 2567

ซีตรอง ถอนตัวจากตลาดออสเตรเลีย หลังทำธุรกิจกว่า100 ปี

16 สิงหาคม 2567

เบื้องหลังฮอนด้าปรับเกมตลาดปิดช่องโหว่กลุ่มลูกค้าอ่อนไหวด้านราคา

5 สิงหาคม 2567

ตลาดรถครึ่งปี67 ร่วง24.2%แนวโน้มครึ่งปีหลังทรุดต่อ

31 กรกฏาคม 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว+

ยอมรับ