
Ford Ranger เตรียมเลิกใช้ระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC4 ระบบใหม่จะเปิดทางให้สามารถใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติแบบไม่ต้องใช้มือควบคุมพวงมาลัย BlueCruise ได้ โดยระบบ SYNC4 จะยังคงถูกใช้งานใน Ford Ranger PHEV รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว รวมถึงใน Ranger Super Duty รุ่นปี 2026 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งอาจเป็นเรนเจอร์รุ่นสุดท้ายที่ใช้ระบบนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยช่วงเวลาชัดเจนของการเลิกใช้ SYNC4 แต่รายงานจาก Ford Authority อ้างถึงคำพูดของ Doug Field หัวหน้าฝ่ายออกแบบดิจิทัลของฟอร์ด ซึ่งระบุว่า SYNC4 จะถูกแทนที่โดยระบบใหม่ชื่อ Ford Digital Experience (FDE) โดย Ranger จะเป็นรุ่นแรกที่ได้รับการอัปเกรด รถรุ่นอื่นที่จะเปลี่ยนมาใช้ FDE ด้วย ได้แก่ F-150 และ Mustang โดย Mustang จะเป็นอีกรุ่นที่เตรียมได้ใช้ระบบ BlueCruise เป็นครั้งแรกเช่นกัน
ระบบ FDE ถูกพัฒนาร่วมกับ Google และเริ่มใช้งานครั้งแรกในสหรัฐฯ กับ Ford Explorer รุ่นปี 2025 ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ รวมถึงในรถหลายรุ่นของแบรนด์หรู Lincoln ของฟอร์ด FDE จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากขึ้น โดยเน้นการปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน แอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยจะถูกแสดงไว้ด้านหน้าของหน้าจอเพื่อความสะดวกในการเข้าถึง
หลังจากฟอร์ดยุติการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ FNV4 ฟอร์ดจะอัปเดตแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้ว เพื่อรองรับการใช้งานระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ BlueCruise พร้อมกับพัฒนาโครงสร้างไฟฟ้าแบบใหม่แยกต่างหากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นใหม่ในอนาคต เราสามารถคาดหวังที่จะได้ใช้ ระบบ FDE ในรถรุ่นที่มีอยู่แล้วได้
BlueCruise คือระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 ที่ช่วยให้สามารถขับขี่แบบไม่ต้องจับพวงมาลัยได้ รองรับทางหลวงในอเมริกา มากกว่า 2 แสนกิโลเมตร
การเปลี่ยนผ่านของเรนเจอร์ไปสู่สถาปัตยกรรมไฟฟ้าใหม่ที่ฟอร์ดเรียกว่า FNV3.X อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเลิกใช้ระบบ SYNC4 ในเรนเจอร์ โดยอาจเกิดขึ้นในรุ่น Minorchange ก่อนที่จะมีการเปิดตัวรุ่น All-new บนแพลตฟอร์มใหม่ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของรุ่นปัจจุบันถูกใช้มาตั้งแต่ปี 2011 โดยคาดว่า Ford Ranger เจเนอเรชันถัดไปจะเปิดตัวในปี 2028