เดโก้จัดประชุมตัวแทนจำหน่าย (Deco Dealer Conference: Electrify Your Journey) สร้างความเชื่อมั่นธุรกิจ ประกาศแผนธุรกิจพร้อมเดินหน้าผลักดันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย เป็นทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภค เล็งเป้าผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไทย
นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า เดโก้(DECO) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตในปี 2018 และได้มีการจำหน่ายออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2019(พ.ศ.2564) ช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในส่วนของการขยายโรงงานผลิต การขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดแล้วกว่า 100 รายและในปีนี้ เดโก้ เดินหน้าก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 อย่างเต็มตัวในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย ที่ครบวงจรและมีฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วันนี้บริษัทมีความพร้อมแล้วในทุกด้านและพร้อมลุยตลาดอย่างเต็มที่ พร้อมมอบสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในราคาที่คนไทยจับต้องได้ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง
โดยภายในงาน นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ยังได้มีการกล่าวถึงแผนธุรกิจที่พร้อมเดินหน้าไม่ว่าจะเป็นการขยายและพัฒนาเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย สร้างศูนย์กระจายสินค้าและบริการตามหัวเมืองแต่ละภูมิภาค เพื่อส่งเสริมตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าบริเวณโดยรอบ และรวมไปถึงการสร้างโรงงานแบตเตอรี่ โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนที่สำคัญภายในไตรมาส 4 ของปี2567 นี้เพื่อควบคุมคุณภาพและส่งเสริมด้านการบริการหลังการขายให้การบริการได้เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของเดโก้ ที่จัดจำหน่ายในปัจจุบันมีทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Sofia, Luciano, Hannah, Super Ace, Vigor, G-Five, DoubleAce และ Susu ทั้งนี้บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก ‘โครงการ EV3.0และ3.5’ ของรัฐบาล สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 28,640 บาท ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงรถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคนอกจากนี้เดโก้ยังมีแผนเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่มากถึง 10 รุ่น ซึ่งจะเริ่มทยอยเปิดตัวในช่วงปลายปี 2567 นี้ ทั้งนี้บริษัท มีเป้าหมายการบุกตลาดต่างประเทศอีกด้วย