นี่คือภาคต่อของไดโนเสาร์พันธ์ใหม่อย่าง Ram 1500 TRX ในราคาที่ถูกกว่าเกิน 3 แสนบาท

หนึ่งในรถกระบะขนาดกลาง-ใหญ่ ที่มีความสามารถมากที่สุดในตลาด จุดเด่นของรถกระบะคันยักษ์นี้คือ ความกว้างที่กว้างกว่ารถกระบะทั่วไป (203 มม.) และล้อขนาด 18 นิ้วที่หุ้มด้วยยางขนาด 35 นิ้ว! รุ่นนี้ยังได้รับการยกขนาดให้สูงขึ้น 2 นิ้ว (51 มม.) ช่วยเพิ่มระยะห่างจากพื้นกับใต้ท้องรถมาเป็น (300 มม.)  RHO โดดเด่นด้วยระบบช่วงล่างเน้นการขับขี่ออฟโรด มีโช๊คสปริงที่ปรับจูนมาใหม่และระบบกันสะเทือนหลังที่ปรับปรุงใหม่พร้อมจุดยึดที่ปรับจูนมาโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ของเพลาได้ 356 มม. เพลาหลัง เป็น Dana 60 พร้อมเฟืองท้ายล็อกไฟฟ้าและแดมเปอร์เสริมการยึดเกาะและการควบคุมเพลาที่ดีขึ้นบนพื้นผิวขรุขระ

ขุมพลัง

ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร บล็อกอลูมิเนียม ฉีดน้ำมันแบบไดเร็คอินเจคชั่น 6 สูบเรียง ทวินเทอร์โบ 540 แรงม้า แรงบิดสูงสุด: 706 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาตรฐาน ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ใน 4.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.

นอกจากจุดเด่นด้านประสิทธิภาพแล้ว RHO ยังมีรักความสามารถในการบรรทุกที่ดีด้วย ที่ 689 กก. และความสามารถในการลากจูง 3,801 กก.

มิติตัวถัง

• ความยาว 5,917 มม. 
• ความกว้าง 2,080 มม. 
• ความสูง 1,976 มม. 
• ฐานล้อ 3,579 มม. 
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 299 มม. 
• มุมเข้า 25.6 องศา
• มุมออก 25.2 องศา

ภายนอก

Ram 1500 RHO ได้รับกระจังหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีตรา Ram ที่ใหญ่ขึ้น และฝากระโปรงแบบใหม่ ไฟ LED กันชนเหล็ก และตะขอลากขนาดใหญ่ ไฟสัญญาณข้างที่ติดอยู่ข้างในระหว่างประตูท้ายและกันชน และระบบไอเสียคู่พร้อมปลายท่อขนาดใหญ่ เสริมลุคออฟโรดให้ดูดุดันยิ่งขึ้น

ภายใน

แม้ภายในจะคล้ายกับรถบรรทุก Ram รุ่นมาตรฐาน แต่ RHO มีคันเกียร์ที่ติดตั้งบนคอนโซลและสวิตช์แบงค์มัลติฟังก์ชั่นสําหรับอุปกรณ์เสริม รถรุ่นนี้ยังมีแป้นสับเกียร์อะลูมิเนียม ตรา "RHO" บนแผงหน้าปัดฝั่งผู้โดยสาร และป้ายคอนโซลกลางแบบกําหนดเองที่มีหมายเลขประจําตัวรถ

มาพร้อมกับแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว และระบบเสียง 10 ลําโพง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 12 ทิศทางพร้อมหนังและปักโลโก้ RHO 

ระบบความปลอดภัย 

1500 RHO มาพร้อม Adaptive Cruise Control, Blind-Spot Monitoring, Forward Collision Mitigation และ ParkSense แพ็คเกจเสริมเพิ่มระบบปัดน้ำฝนแบบตรวจจับฝน ระบบสาระบันเทิงขนาดใหญ่ เบาะนั่งปรับอุณหภูมิได้ กระจกมองหลังดิจิทัล แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย และระบบเสียงพรีเมียม นอกจากนี้ยังรวมถึงจอแสดงผลบนกระจกหน้า คุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ และการจดจำป้ายจราจร

Drive Mode 

• Auto
• โหมดพ่วง
• โคลน
• ทราย
• หิน
• หิมะ
• Sport
• Custom
• Valet

แต่สำหรับใครที่ยังคิดว่าอยากได้ออฟชั่นเพิ่มเติมก็สามารถเลือกใช้ RHO Equipment Group เพิ่มที่ปัดน้ําฝนและจอระบบสาระบันเทิงขนาด 14.5 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น เบาะนั่งด้านหน้าแบบอุ่น-ระบายอากาศ และนวดได้ ตลอดจนเบาะหลังเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์และกระจกมองหลังแบบดิจิตอล แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย 2 ตำแหน่ง และระบบเสียงระดับพรีเมียมพร้อมลําโพง 19 ตัว จอแสดงผลบนศีรษะและระบบช่วยขับขี่แบบแอคทีฟแฮนด์ฟรี เทคโนโลยีการจดจําป้ายจราจร ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ และ ระบบแจ้งเตือนการชน

ราคาจำหน่าย

2025 Ram 1500 RHO มีราคาเริ่มต้นที่ 2.67 ล้านบาท (71,990 ดอลลาร์) ซึ่งถูกกว่า  Ram 1500 TRX รุ่นเก่าถึงเกือบ 1 ล้านบาท $98,335 และถูกกว่า Ford F-150 Raptor ประมาณ 3 แสนบาท ($80,325)

Credit: Carscoops