แบรนด์ LEVC และรถรุ่นใหม่ MPV L380 ที่กำลังจะเปิดตัวในจีน คงมีน้อยคนรู้จักไม่มากแต่ถ้าบอกว่ามันคือ บริษัท ลอนดอน แท็กซี่(LTC) ชื่อเสียงนี้คงเคยได้ยินกันมาบ้าง LEVC กำลังจะเปิดตัวรถอภิมหารถตู้ รุ่น LEVC L380 ถือว่าเป็นรถคันแรก ที่จะแนะนำรถรูปทรงแตกต่างไปจากลอนดอน แท็กซี่ที่เราคุ้นเคย ซึ่งปัจจุบันชื่อ ลอนดอน แท็กซี่ได้ เปลี่ยนแปลงสู่ บริษัท โมเดิร์น อีวี นับจากที่จีลี่เข้าซื้อกิจการ แม้จะเชื่อมโยง มรดกที่เริ่มต้นจากการค้ารถแท็กซี่ ของลอนดอนแทกซี่แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป
ในปี 2549 Geely Group เข้าซื้อหุ้น LTC 20% และเข้าซื้อกิจการทั้งหมดในปี 2556ชื่อของลอนดอนแทกซี่ จึงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เมื่อจีลี่เข้าไปซื้อกิจการและกำหนดชื่อใหม่ว่า LEVC จีลี่ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าสู่ตลาด MPV รถรุ่นแรกคือ MPV L380 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนของแบรนด์ย่อย LEVC (London Electric Vehicle) โดยกลุ่มจีลี่( Geely Group) ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 นี้
LEVC เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ จีลี่ เป็นเจ้าของ เหมือนกับเอ็มจี (MG) ซึ่งเป็นเจ้าของโดย SAIC รถรุ่นใหม่ของLEVC มุ่งเน้นการสร้างยานพาหนะเพื่อการเดินทางระดับไฮเอนด์สไตล์อังกฤษ รถยนต์ MPV L380 พลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์ของ LEVC ตั้งชื่อตามเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผลิตโดยบริษัทแอร์บัสแห่งยุโรป และมีเป้าหมายเพื่อสะท้อนถึงความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย และความหรูหราของรถ MPV
ในแง่ของรูปลักษณ์ LEVC L380 เป็นฝีมือการออกแบบของ เบรตต์ บอยเดลล์( Brett Boydell)อดีตนักออกแบบจากค่าย เบนทลีย์( Bentley) สไตล์โดยรวมจึง ออกมาเรียบง่าย เต็มอิ่มด้านหน้าใช้ไฟวิ่งกลางวันแบบโปร่งใส ชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน โลโก้รถแบบปีก มีความคล้ายคลึงกับแอสตัน มาร์ติน( Aston Martin) เพื่อแสดงถึงอารมณ์ระดับไฮเอนด์และหรูหรา
ในส่วนของขนาดรถมีความยาว ความกว้าง และความสูง คือ 5316/1998/1940 มม. ตามลำดับ และระยะฐานล้อคือ 3185 มม. ด้านหลัง การออกแบบที่เรียบง่าย มีไฟท้ายสีดำรวมอยู่ด้านท้าย จากมุมมองของรูปทรงทั้งหมด LEVC L380 ค่อนข้างธรรมดา การออกแบบโครงสร้างตัวถังแบบนี้เอื้อต่อการเพิ่มพื้นที่ภายในให้สูงสุด
การตกแต่งภายในใช้การออกแบบแผงหน้าปัดแบบแขวน และหน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบแขวน เช่นกัน ภายในให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่หรูหรา วัสดุหุ้มด้วยหนังแท้ และหนัง Alcantara ขนาดใหญ่ ทำให้มีบรรยากาศระดับไฮเอนด์
ด้วยสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นพื้นที่ "SOA" พื้นที่ แถวที่2 และ3 มีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ผู้โดยสารแถวที่ 3 ยังสามารถเพลิดเพลินกับที่นั่งแบบแยกอิสระได้ เมื่อมีที่นั่ง 6 ที่นั่ง ที่นั่งแถวที่ 3 ก็สามารถปรับเอนได้ เอื้อต่อการเดินทางระยะไกล
สำหรับขุมกำลัง รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ใช้มอเตอร์เดี่ยวมีกำลังสูงสุด 200kW และแรงบิดสูงสุด 343N·m รุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน4 ล้อมีกำลังสูงสุด กำลังสูงสุด 400kW และแรงบิดสูงสุด 686 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ใช้เทคโนโลยีบูรณาการระบบแบตเตอรี่ของ CATL มีความจุแบตเตอรี่ 2 ขนาดคือ 116kWh และ 140kWh มีพิสัยการขับไกล 675 กม. และ 805 กม. การชาร์จอย่างรวดเร็วสามารถชาร์จได้ตั้งแต่ 10- 80% ใน 30 นาที และสามารถเติมพลังงานได้เป็นระยะทาง 200 กม.ใน10 นาที
ราคาของ Geely LEVC L380 คาดว่าอาจสูงถึง 3 ล้านบาท(600,000 หยวน) คู่แข่งหลักได้แก่ Denza D9, Lantu Dreamer, Ideal MEGA, Mercedes-Benz V-Class, Hongqi HQ9เป็นต้น แม้ว่าจะมีรุ่นแข่งขันกันมากมาย แต่ จริงไ คู่แข่งที่แข็งแกร่ง มีเพียงหนึ่งเดียว คือ Denza D9 ที่ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาด MPV ด้วยยอด 10,158 คัน/เดือน และ ยังเป็นรุ่นเดียวที่มียอดขายมากกว่า 10,000 คันในเดือนเดียว
สำหรับความเป็นมาของแบรนด์ LEVC มีจุดเริ่มต้นมาจากปี 2451 ตัวแทนจำหน่ายรถแท็กซี่ JJ Mann และ Tom Overton เริ่มนำเข้ารถยนต์ไปยังสหราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายเป็นรถแท็กซี่ในลอนดอน ทั้งสองได้ว่าจ้างให้ทำห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบใหม่ของลอนดอน กลายเป็นแท็กซี่ ที่ใช้กันมากที่สุดบนท้องถนนในลอนดอน ปี 2491 ได้พัฒนาห้องโดยสารใหม่ ตัวถังทำจากเหล็กทั้งหมด
ปี 2532 บริษัท Manganese Bronze Holdings (MBH) ได้เข้าซื้อกิจการและก่อตั้ง London Taxis International (LTI) ต่อมา MBH ได้ประกาศร่วมทุนกับผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีน Geely Auto เพื่อสร้างโรงงานในเซี่ยงไฮ้และผลิตรถแท็กซี่สำหรับตลาดจีนและตลาดต่างประเทศอื่นๆ ปี2556 จีลี่ เป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตแบล็คแท็กซี่อยู่แล้ว 20% ได้เข้าซื้อธุรกิจและทรัพย์สินหลักจาก MBH และเริ่ม ลงทุนเพิ่มขึ้น ด้วยการปรับปรุงโรงงานผลิตในโคเวนทรี ปี2560 เริ่มใช้ ชื่อและโลโก้ใหม่ หลังนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนได้พบกับสี จิ้นผิง ในเซี่ยงไฮ้ ระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ และ บริษัท London EV ได้ถือกำเนิดขึ้น
ปี2561 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง มีการตั้งสำนักงานใหญ่ระดับโลกแห่งใหม่ของ LEVC เปิดในเมืองแอนส์ตี้ เมืองโคเวนทรี มีการลงทุนมากกว่า 500 ล้านปอนด์ และใช้เทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า ของจีลี่และกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มรถ Geely Commercial Vehicles Group